ทิสโก้มั่นใจสินเชื่อเช่าซื้อยังขยายตัวได้ 20% ตามเป้า แม้จะรับผลกระทบจากค่าครองชีพและราคาน้ำมันที่สูง โดยหันมาให้ความสำคัญกับรถประเภทอี-โคคาร์ มากขึ้น ระบุ 5 เดือนแรกของปีโตแล้ว 9% ล่าสุด ออก “เอแอลพี พลัส” ต่อยอดจากเอแอลพี โชว์เพิ่มความคุ้มครองอีก 2 ส่วน ตั้งเป้าเบี้ยประกันรวมปีนี้ที่ 2,500 ล้าน จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2,076 ล้าน
นายเสถียร เลี้ยววาริณ ผู้อำนวยการฝ่ายประกันชีวิตธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าตัวเลขสินเชื่อเช่าซื้อจะยังคงเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าค่าครองชีพและราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยังเชื่อว่า ตัวเลขสินเชื่อจะยังคงเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ทั้งปีจะโต 20% โดยพิจารณาจากการเติบโตในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ก็พบว่าตัวเลขสินเชื่อเช่าซื้อโต 9% ประกอบกับยังมองว่า ในทุกๆ ปีช่วงครึ่งปีหลัง ตัวเลขเช่าซื้อรถยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อรถยนต์แบบใหม่ที่ใช้ E20 หรือจะเป็นรถยนต์ประเภทอี-โคคาร์ ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ “เอแอลพี พลัส” (ALP Plus) ต่อเนื่องจาก “Auto Loan Protection” (เอแอลพี) หรือประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าเช่าซื้อผู้เอาประกันกว่า 90,000 ราย โดย “เอแอลพี พลัส” ขยายความคุ้มครองเพิ่มขึ้น และมีเอไอเอ (อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์) เป็นพันธมิตรเช่นเดิม
โดยส่วนที่ขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกค้าจะมี 2 ส่วน คือ ในส่วนของกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่เดิมให้ความคุ้มครองเพียง 50% ของภาระหนี้สินตั้งต้นคงที่ตลอดอายุสัญญา (ทุนประกัน) เราได้ปรับเพิ่มเป็น 100% ของทุนประกัน และกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัย จากเดิมให้ความคุ้มครอง 100% ก็ปรับเพิ่มเป็น 200% ของทุนประกัน และนอกจากนี้ เรายังเป็นรายแรกที่เพิ่มความคุ้มครองการทุพพลภาพสิ้นเชิงชั่วคราวให้ทั้งสองกรณี คือ ทั้งกรณีทุพพลภาพชั่วคราวอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วย และเนื่องจากอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้ผู้เช่าซื้อไม่สามารถประกอบอาชีพได้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยจะได้รับความคุ้มครองค่างวดสูงสุดถึง 6 เดือน
“จุดเด่นของ เอแอลพี พลัส คือ เป็นกรมธรรม์ประกันสินเชื่อเช่าซื้อที่ให้ความคุ้มครองสูงที่สุดในตลาด ในอัตราเบี้ยประกันต่ำที่สุดในตลาด โดยเราเป็นเจ้าแรกที่ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 100% ของทุนประกันคงที่ตลอดอายุสัญญา”
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ALP Plus ซึ่งเป็นประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารได้ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรวมปีนี้ อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประกันวินาศภัย 2,000 ล้านบาท และประกันชีวิต 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เบี้ยประกันภัยรวม 2,076 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นประกันวินาศภัย 1,833 ล้านบาท และประกันชีวิต 243 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากสินเชื่อที่ขยายตัว ทำให้ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดทางด้านประกันภัยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 8.59% และจะทำให้ในปีนี้น่าจะปรับอันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 จากปีก่อนที่อยู่ในอันดับที่ 4 ของธนาคารพาณิชย์ที่มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าธุรกิจประกันภัย โดยจากช่วง 5 เดือนแรกปีนี้มีเบี้ยประกันภัยแล้ว 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประกันวินาศภัย 800 ล้านบาท และประกันชีวิต 200 ล้านบาท จึงทำให้เชื่อว่าทั้งปีน่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้
นายเสถียร เลี้ยววาริณ ผู้อำนวยการฝ่ายประกันชีวิตธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าตัวเลขสินเชื่อเช่าซื้อจะยังคงเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าค่าครองชีพและราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยังเชื่อว่า ตัวเลขสินเชื่อจะยังคงเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ทั้งปีจะโต 20% โดยพิจารณาจากการเติบโตในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ก็พบว่าตัวเลขสินเชื่อเช่าซื้อโต 9% ประกอบกับยังมองว่า ในทุกๆ ปีช่วงครึ่งปีหลัง ตัวเลขเช่าซื้อรถยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าหันมาซื้อรถยนต์แบบใหม่ที่ใช้ E20 หรือจะเป็นรถยนต์ประเภทอี-โคคาร์ ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ “เอแอลพี พลัส” (ALP Plus) ต่อเนื่องจาก “Auto Loan Protection” (เอแอลพี) หรือประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าเช่าซื้อผู้เอาประกันกว่า 90,000 ราย โดย “เอแอลพี พลัส” ขยายความคุ้มครองเพิ่มขึ้น และมีเอไอเอ (อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์) เป็นพันธมิตรเช่นเดิม
โดยส่วนที่ขยายความคุ้มครองให้แก่ลูกค้าจะมี 2 ส่วน คือ ในส่วนของกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ที่เดิมให้ความคุ้มครองเพียง 50% ของภาระหนี้สินตั้งต้นคงที่ตลอดอายุสัญญา (ทุนประกัน) เราได้ปรับเพิ่มเป็น 100% ของทุนประกัน และกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัย จากเดิมให้ความคุ้มครอง 100% ก็ปรับเพิ่มเป็น 200% ของทุนประกัน และนอกจากนี้ เรายังเป็นรายแรกที่เพิ่มความคุ้มครองการทุพพลภาพสิ้นเชิงชั่วคราวให้ทั้งสองกรณี คือ ทั้งกรณีทุพพลภาพชั่วคราวอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วย และเนื่องจากอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้ผู้เช่าซื้อไม่สามารถประกอบอาชีพได้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน โดยจะได้รับความคุ้มครองค่างวดสูงสุดถึง 6 เดือน
“จุดเด่นของ เอแอลพี พลัส คือ เป็นกรมธรรม์ประกันสินเชื่อเช่าซื้อที่ให้ความคุ้มครองสูงที่สุดในตลาด ในอัตราเบี้ยประกันต่ำที่สุดในตลาด โดยเราเป็นเจ้าแรกที่ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสูงถึง 100% ของทุนประกันคงที่ตลอดอายุสัญญา”
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ALP Plus ซึ่งเป็นประกันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารได้ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรวมปีนี้ อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นประกันวินาศภัย 2,000 ล้านบาท และประกันชีวิต 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เบี้ยประกันภัยรวม 2,076 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นประกันวินาศภัย 1,833 ล้านบาท และประกันชีวิต 243 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากสินเชื่อที่ขยายตัว ทำให้ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดทางด้านประกันภัยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 8.59% และจะทำให้ในปีนี้น่าจะปรับอันดับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 จากปีก่อนที่อยู่ในอันดับที่ 4 ของธนาคารพาณิชย์ที่มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าธุรกิจประกันภัย โดยจากช่วง 5 เดือนแรกปีนี้มีเบี้ยประกันภัยแล้ว 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประกันวินาศภัย 800 ล้านบาท และประกันชีวิต 200 ล้านบาท จึงทำให้เชื่อว่าทั้งปีน่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้