ททท.ผนึกบัตรวีซ่า จัดงาน อะเมซิ่งไทยแลนด์แกรนด์เซลส์ 2008 กระตุ้นตลาดต่างชาติให้ใช้จ่ายช่วงโลว์ซีซั่นส์ ส่งสินค้าและบริการราคาพิเศษล่อใจ เผยตลาดชอปปิ้งเป็นสัดส่วนรายได้สูงกว่า 25% ของรายได้ท่องเที่ยวทั้งหมด
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า รายได้ที่มาจากการชอปปิ้งของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย ถือได้ว่าเป็นรายได้หลักของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีสัดส่วนมากกว่า 26% ดังนั้น ททท. จึงได้ร่วมมือกับทางบัตรวีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อจัดงาน อะเมซิ่งไทยแลนด์แกรนด์เซลส์ 2008 ขึ้นมาระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.- 31 ส.ค. ศกนี้ ซึ่งเป็นงานลดราคาครั้งใหญ่เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว
การจัดงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดี สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดี โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นส์ ที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงพอๆกับช่วงไฮซีซั่นส์ ซึ่งทางททท.เองก็มีแนวคิดที่จะจัดงานเช่นนี้เป็นประจำทุกปี อีกทั้งจะหาพันธมิตรเข้าร่วมากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับการร่วมมือกับทางบัตรวีซ่านี้ เนื่องจากว่า บัตรเครดิตวีซ่า เป็นผู้นำตลาดในอันดับต้นๆด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 25% ของบัตรทั้งหมดที่ให้บริการ ซึ่งมีศักยภาพมากที่จะดึงดูด นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้อย่างดี และทำตลาดผ่านเครือข่ายในต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ตลาดตะวันออกกลาง เป็นต้น
“ ช่วง 3 เดือนที่จัดงานนี้ ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นส์ที่คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยมาใช้จ่ายได้ เพราะเรามีสถานประกอบการมากกว่า 1,000 แห่ง เข้ามาร่วมโครงการ และมีส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 150,000 ล้านบาท หรือมากกว่าปีที่แล้ว 10%
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการ วีซ่า อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า วีซ่าได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจทางด้านต่างๆที่เกี่ยวกับการชอปปิ้ง การท่องเที่ยว เพิ่มอีก 9 ประเภท ทั้ง ห้างสรรพสินค้า ดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์ จิวเวลรี่ โรงแรม สายการบิน สปา สนามกอล์ฟ บริษัททัวร์ออนไลน์ โรงพยาบาล ที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวกระจายอยู่ใน 11 จังหวัดที่เป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา อุดรธานี เป็นต้น ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติชอปปิ้งผ่านบัตรเครดิตวีซ่าในไทยมากกว่าทุกปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นทุกปีอีกด้วย
ทางด้านนายกฤษณยศ อัมพรไพศาล บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสาฝ่ายพัฒนาธุรกิจและพันธมิตรองค์กร บริษัท สยาม พารากอน รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า พารากอนมีแผนที่จะร่วมโครงการนี้ต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากว่าที่ผ่านมาที่เข้าร่วมโครงการนี้ ประสบความสำเร็จอย่างดี สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้มากในช่วงโลว์ซีซั่นส์ เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักของพารากอน คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ สัดส่วนมากถึง 55% ของเงินที่เข้ามาจับจ่ายในพารากอน
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า รายได้ที่มาจากการชอปปิ้งของนักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย ถือได้ว่าเป็นรายได้หลักของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีสัดส่วนมากกว่า 26% ดังนั้น ททท. จึงได้ร่วมมือกับทางบัตรวีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อจัดงาน อะเมซิ่งไทยแลนด์แกรนด์เซลส์ 2008 ขึ้นมาระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.- 31 ส.ค. ศกนี้ ซึ่งเป็นงานลดราคาครั้งใหญ่เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว
การจัดงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดี สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดี โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นส์ ที่กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงพอๆกับช่วงไฮซีซั่นส์ ซึ่งทางททท.เองก็มีแนวคิดที่จะจัดงานเช่นนี้เป็นประจำทุกปี อีกทั้งจะหาพันธมิตรเข้าร่วมากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับการร่วมมือกับทางบัตรวีซ่านี้ เนื่องจากว่า บัตรเครดิตวีซ่า เป็นผู้นำตลาดในอันดับต้นๆด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 25% ของบัตรทั้งหมดที่ให้บริการ ซึ่งมีศักยภาพมากที่จะดึงดูด นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้อย่างดี และทำตลาดผ่านเครือข่ายในต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ตลาดตะวันออกกลาง เป็นต้น
“ ช่วง 3 เดือนที่จัดงานนี้ ถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นส์ที่คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยมาใช้จ่ายได้ เพราะเรามีสถานประกอบการมากกว่า 1,000 แห่ง เข้ามาร่วมโครงการ และมีส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 70% ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 150,000 ล้านบาท หรือมากกว่าปีที่แล้ว 10%
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการ วีซ่า อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า วีซ่าได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจทางด้านต่างๆที่เกี่ยวกับการชอปปิ้ง การท่องเที่ยว เพิ่มอีก 9 ประเภท ทั้ง ห้างสรรพสินค้า ดิวตี้ฟรีคิงเพาเวอร์ จิวเวลรี่ โรงแรม สายการบิน สปา สนามกอล์ฟ บริษัททัวร์ออนไลน์ โรงพยาบาล ที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวกระจายอยู่ใน 11 จังหวัดที่เป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา อุดรธานี เป็นต้น ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติชอปปิ้งผ่านบัตรเครดิตวีซ่าในไทยมากกว่าทุกปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นทุกปีอีกด้วย
ทางด้านนายกฤษณยศ อัมพรไพศาล บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสาฝ่ายพัฒนาธุรกิจและพันธมิตรองค์กร บริษัท สยาม พารากอน รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า พารากอนมีแผนที่จะร่วมโครงการนี้ต่อเนื่องทุกปี เนื่องจากว่าที่ผ่านมาที่เข้าร่วมโครงการนี้ ประสบความสำเร็จอย่างดี สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้มากในช่วงโลว์ซีซั่นส์ เพราะกลุ่มเป้าหมายหลักของพารากอน คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ สัดส่วนมากถึง 55% ของเงินที่เข้ามาจับจ่ายในพารากอน
