xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเบฟฯ เทกโอเวอร์ OISHI ใช้เงินเบื้องต้น 304.56 ล้านบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

OISHI เผย " ยอดกิจธุรกิจ " ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ขาย 82,314,537 หุ้น หรือ 43.9 % ของทุนจดทะเบียนชำระให้ ไทยเบฟเวอเรจ ราคาหุ้นละ 37 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 304.56 ล้านบาท เผยราคาซื้อขายหุ้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากพบว่ากำไรสุทธิของบริษัทฯ หรือมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่แท้จริงต่ำกว่ากำไรสุทธิของบริษัทฯ หรือมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นของบริษัทฯ ที่ปรากฏในงบการเงิน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 51 ตั้งแต่ 5 %ขึ้นไป

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI) แจ้งว่าตามที่ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)(OISHI)ไ ด้ขอให้ตลาดหลักทรัพย์พักการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ เป็นการชั่วคราวเนื่องจากบริษัทฯ ได้รับแจ้งในเบื้องต้นจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ บริษัท ยอดกิจธุรกิจ จำกัด ว่าอยู่ในระหว่างการเจรจาขายหุ้นสามัญในส่วนที่ถืออยู่ในบริษัทฯ ทั้งหมดจำนวน 82,314,537 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 43.9 ของทุนจดทะเบียนชำระนั้น

บัดนี้ บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประสงค์ที่จะขายหุ้นสามัญในส่วนที่ถืออยู่ในบริษัทฯ ทั้งหมดจำนวน 82,314,537 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 43.9 ของทุนจดทะเบียนบริษัทฯ ให้กับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในราคาหุ้นละ 37 บาท คิดเป็น 304.56 ล้านบาท โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับผู้จะซื้อแล้วในวันที่ 14 พฤษภาคม 2551

โดย ณ ปัจจุบัน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้จะซื้อ ถือหุ้นโดยเจริญ สิริวัฒนภักดี และภรรยา รวมถึงบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ เจริญ สิริวัฒนภักดี 60 %ของทุนชำระแล้ว และบริษัทยอดกิจธุรกิจ จำกัดซึ่งเป็นผู้จะขาย ถือหุ้นโดย เจริญ สิริวัฒนภักดี และภรรยา โดยทางอ้อม 100 %ของทุนชำระแล้ว

ทั้งนี้ ในการจะซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในครั้งนี้จะสำเร็จเสร็จสิ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหลายประการ เช่น การลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะต้องกระทำภายในวันที่ 30 กันยายน 51 และภายหลังจากการพิจารณาอนุมัติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของผู้ซื้อตามกฎหมายในการเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้แจ้งถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ของผู้จะซื้อว่าผู้จะซื้อมีความประสงค์ที่จะขยายธุรกิจหลักของผู้จะซื้อและเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในสายธุรกิจเครื่องดื่มประเภทปราศจากแอลกอฮอล์ และบริษัทฯ ได้เปิดเผยสารสนเทศสำคัญดังกล่าวผ่านทางระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แล้ว จึงขออนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ โดยปลดเครื่องหมาย SP ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 16 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น