ปตท.ประกาศตรึงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยจะรอดูราคาในตลาดโลกจนถึงสัปดาห์หน้า ขณะที่ผู้ค้ารายอื่นเตรียมพิจารณาปรับขึ้นราคา 50 สต./ลิตร สัปดาห์หน้า หากราคาน้ำมันโลกยังสูงกว่า 124 ดอลลาร์/บาเรล
ผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทจะไม่ปรับราคาน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในสัปดาห์หน้าก่อน แม้ล่าสุดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะทะลุ 124 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ค่าการตลาดในส่วนของน้ำมันเบนซิน 95 เป็นบวกเพียงลิตรละ 70 สตางค์ ส่วนน้ำมันดีเซลติดลบลิตรละ 0.68 สตางค์ ซึ่งยังไม่นับรวมค่าการตลาดปกติที่ควรจะเป็นที่ลิตรละ 1.50 บาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขค่าการตลาดน้ำมันในประเทศที่ต่ำมาก
โดยราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 37.09 บาท, เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 35.99 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 33.09 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 32.29 บาท ส่วนดีเซลของเชลล์อยู่ที่ลิตรละ 34.44 บาท ซึ่งสูงกว่าผู้ค้าน้ำมันรายอื่นลิตรละ 50 สตางค์
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางบริษัท น้ำมันคาลเท็กซ์ ได้ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 50 สตางค์ ลงมาอยู่ที่ลิตรละ 33.94 บาทเท่ากับ ปตท.เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ เนื่องจากยอดขายลดลงอย่างมาก เพราะประชาชนหันไปเติมน้ำมันของ ปตท.และบางจากฯ ที่มีราคาถูกกว่า
มีรายงานข่าวว่า ผู้ค้าน้ำมันในประเทศหลายราย เตรียมพิจารณาปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศอีก 50 สตางค์ต่อลิตรในสัปดาห์นี้ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทำสถิติสูงสุดรอบใหม่ทะลุ 124 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจัยการเก็งกำไรของนักลงทุน และความวิตกกังวลต่อปริมาณน้ำมันที่คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะใช้พลังงานมากขึ้นในอนาคต ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาน้ำมันผันผวนและถีบตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
