วีระศักดิ์ ชงตั้ง 3 สำนักงานใหม่เสนอที่ประชุม ครม.เร็วๆ นี้ อ้างเป็นแผนปรับโครงสร้างการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้เกิดความชัดเจน ระบุ สำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยว จะเป็นหน่วยงานมอนิเตอร์ ข้อมูลสถิตินักท่องเที่ยว และการใช้จ่ายอย่างใกล้ชิด คล้ายการทำงานของ สศช.หวังชิงแก้เกมได้อย่างรวดเร็ว พร้อมยาหอมข้าราชการอนาคตจะดันขึ้นเป็นกรม
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอแผนการจัดตั้ง 3 สำนักงานใหม่ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา ได้แก่ สำนักงานพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว สำนักงานนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และ สำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยขณะนี้เรื่องทั้งหมด กระทรวงได้ส่งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้พิจารณากลั่นกรองในเบื้องต้นก่อน
“การตั้ง 3 สำนักงานดังกล่าว อยู่ในแผนการปรับโครงสร้างการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้แยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนถูกต้อง และเพื่อให้การทำงานด้านการท่องเที่ยวมีการขับเคลื่อนแบบบูรณาการอย่างแท้จริง”
สำหรับหน้าที่การทำงานแต่ละสำนักงาน ในกรอบที่วางไว้ กล่าวคือ สำนักงานพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว จะเป็นฝ่ายจัดทำหลักสูตรในการฝึกอบรมบุคลากร โดยอาจร่วมกับสถานศึกษาเพื่อจัดทำหลักสูตร สำหรับใช้อบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ในส่วนปฏิบัติการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูล สถิติ จำนวน และรายได้ทางการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ถ่ายโอนหน้าที่นี้มาไว้ที่ สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งที่ความจริง หน้าที่หลักของ สพท.คือ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
ดังนั้น หากตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยวขึ้นมาก็จะได้ดูแลเรื่องตัวเลขโดยตรง หากเปรียบเทียบก็จะทำงานคล้ายกับ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศ และประเมินผลในอนาคต ส่วนสำนักงานนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน
“ขณะนี้ กระทรวงได้ร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.จัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินสุวรรณภูมิ และมีแนวคิดว่า จะนำระบบเอพี แอดวานซ์ มาเชื่อมต่อข้อมูล เพื่อให้การวิเคราะห์สถิตินักท่องเที่ยวมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา การจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวยังล่าช้า ทำให้บางครั้งการวางแผนแก้ไขสถานการณ์ได้ล่าช้า”
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า แผนงานในอนาคตของกระทรวงยังเตรียมผลักดันให้สำนักงานที่กล่าวมาทั้งหมดขึ้นเป็นกรม มีอธิบดีเป็นผู้บริหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการและพนักงานและถือเป็นการยกระดับการทำงานให้แก่บุคลากรของกระทรวงด้วย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอแผนการจัดตั้ง 3 สำนักงานใหม่ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา ได้แก่ สำนักงานพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว สำนักงานนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ และ สำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยขณะนี้เรื่องทั้งหมด กระทรวงได้ส่งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้พิจารณากลั่นกรองในเบื้องต้นก่อน
“การตั้ง 3 สำนักงานดังกล่าว อยู่ในแผนการปรับโครงสร้างการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้แยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนถูกต้อง และเพื่อให้การทำงานด้านการท่องเที่ยวมีการขับเคลื่อนแบบบูรณาการอย่างแท้จริง”
สำหรับหน้าที่การทำงานแต่ละสำนักงาน ในกรอบที่วางไว้ กล่าวคือ สำนักงานพัฒนาบุคคลากรด้านการท่องเที่ยว จะเป็นฝ่ายจัดทำหลักสูตรในการฝึกอบรมบุคลากร โดยอาจร่วมกับสถานศึกษาเพื่อจัดทำหลักสูตร สำหรับใช้อบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ในส่วนปฏิบัติการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูล สถิติ จำนวน และรายได้ทางการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ถ่ายโอนหน้าที่นี้มาไว้ที่ สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เป็นผู้ดำเนินการ ทั้งที่ความจริง หน้าที่หลักของ สพท.คือ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
ดังนั้น หากตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการท่องเที่ยวขึ้นมาก็จะได้ดูแลเรื่องตัวเลขโดยตรง หากเปรียบเทียบก็จะทำงานคล้ายกับ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศ และประเมินผลในอนาคต ส่วนสำนักงานนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ จะทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน
“ขณะนี้ กระทรวงได้ร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.จัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสนามบินสุวรรณภูมิ และมีแนวคิดว่า จะนำระบบเอพี แอดวานซ์ มาเชื่อมต่อข้อมูล เพื่อให้การวิเคราะห์สถิตินักท่องเที่ยวมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา การจัดเก็บสถิตินักท่องเที่ยวยังล่าช้า ทำให้บางครั้งการวางแผนแก้ไขสถานการณ์ได้ล่าช้า”
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า แผนงานในอนาคตของกระทรวงยังเตรียมผลักดันให้สำนักงานที่กล่าวมาทั้งหมดขึ้นเป็นกรม มีอธิบดีเป็นผู้บริหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการและพนักงานและถือเป็นการยกระดับการทำงานให้แก่บุคลากรของกระทรวงด้วย
