เอ พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ เดินหน้าธุรกิจ จัดทัพ “ทีวี-พีอาร์-อีเวนต์ ออร์แกไนเซอร์” นำหน้าทัพสื่อวิทยุภูมิภาคธุรกิจเดิม ชี้ ยุคนี้การให้บริการด้านการสื่อสารต้องครบวงจร
นางสาวช่อผกา วิริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เปิดเผยว่า จากที่บริษัทเคยทำธุรกิจสื่อวิทยุในส่วนภูมิภาคมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แม้จะประสบความสำเร็จและเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดก็ตาม แต่ก็พบปัจจัยเสี่ยงอีกหลายด้าน
ขณะเดียวกัน มองเห็นว่า ตลาดการสื่อสารในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามรสนิยมของผู้บริโภค จึงทำให้ผู้ประกอบการสื่อที่มีเพียงสื่อใดสื่อหนึ่งจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนักการตลาดและเจ้าของสินค้าได้อย่างแท้จริง
บริษัทจึงขยายธุรกิจเพื่อเปิดให้บริการด้านการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร (Above & Below the line) โดยมีทั้งสิ้น 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ ประชาสัมพันธ์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แอสติน่า, เครื่องซักผ้า ไททัน, ลี คาเฟ่, ลี คิทเช่น, เบนซ์ ทีทีซี, ข้าวแสนดี, ไทยออโต้ กลาส, เป่า ยิ้ง ฉุบ เป็นต้น และอีเวนต์ออร์แกไนเซอร์
“เป็นการจัดทัพธุรกิจเพื่อดักทางกระแสและความเปลี่ยนแปลงของตลาดเอาไว้ ในส่วนของทีวีวางไว้ว่าจะเป็นตัวสร้างรายได้หลักสำหรับของใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเราจะจับงานทั้งทางด้านฟรีทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียม ตั้งเป้าโตไว้ที่ประมาณ 60% ขณะที่สื่อประชาสัมพันธ์ก็กำลังเป็นที่จับตามองของตลาดเช่นกัน วัดจากที่บริษัทฯ ให้บริการด้านนี้มาในระยะเพียงไม่กี่เดือน แต่มีจำนวนลูกค้าตอบรับดีมากและเพิ่มจำนวนขึ้นทุกเดือน” นางสาวช่อผกา กล่าว
นางสาวช่อผกา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจวิทยุ 40% ธุรกิจโทรทัศน์ 30% ธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจอีเวนต์ออร์แกไนเซอร์อย่างละ 15%
นางสาวช่อผกา วิริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ พลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เปิดเผยว่า จากที่บริษัทเคยทำธุรกิจสื่อวิทยุในส่วนภูมิภาคมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แม้จะประสบความสำเร็จและเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดก็ตาม แต่ก็พบปัจจัยเสี่ยงอีกหลายด้าน
ขณะเดียวกัน มองเห็นว่า ตลาดการสื่อสารในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามรสนิยมของผู้บริโภค จึงทำให้ผู้ประกอบการสื่อที่มีเพียงสื่อใดสื่อหนึ่งจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของนักการตลาดและเจ้าของสินค้าได้อย่างแท้จริง
บริษัทจึงขยายธุรกิจเพื่อเปิดให้บริการด้านการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร (Above & Below the line) โดยมีทั้งสิ้น 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ ประชาสัมพันธ์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า แอสติน่า, เครื่องซักผ้า ไททัน, ลี คาเฟ่, ลี คิทเช่น, เบนซ์ ทีทีซี, ข้าวแสนดี, ไทยออโต้ กลาส, เป่า ยิ้ง ฉุบ เป็นต้น และอีเวนต์ออร์แกไนเซอร์
“เป็นการจัดทัพธุรกิจเพื่อดักทางกระแสและความเปลี่ยนแปลงของตลาดเอาไว้ ในส่วนของทีวีวางไว้ว่าจะเป็นตัวสร้างรายได้หลักสำหรับของใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยเราจะจับงานทั้งทางด้านฟรีทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียม ตั้งเป้าโตไว้ที่ประมาณ 60% ขณะที่สื่อประชาสัมพันธ์ก็กำลังเป็นที่จับตามองของตลาดเช่นกัน วัดจากที่บริษัทฯ ให้บริการด้านนี้มาในระยะเพียงไม่กี่เดือน แต่มีจำนวนลูกค้าตอบรับดีมากและเพิ่มจำนวนขึ้นทุกเดือน” นางสาวช่อผกา กล่าว
นางสาวช่อผกา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจวิทยุ 40% ธุรกิจโทรทัศน์ 30% ธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจอีเวนต์ออร์แกไนเซอร์อย่างละ 15%