ททท.เร่งโกย นักท่องเที่ยวระยะใกล้ กลุ่มเอเชียแปซิฟิก เดินหน้า ผุดหนังสือคู่มือ ท่องเที่ยว อีก 2 เล่ม โปรโมตเชียงใหม่และภูเก็ต ต่อยอดโครงการ 72 อาวส์ ฯ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในกรุงเทพฯ หวังเป็นไกด์บุ๊ค จูงใจ กลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มมาซ้ำ เข้ามาเที่ยวไทยทุกวีคเอนด์
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือคู่มือท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ และ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะอยู่ในโครงการ 72 อาวส์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โดยหนังสือทั้ง 2 เล่มดังกล่าว เป็น แผนงานที่ต่อยอดจากเดิม ที่ ททท.ได้เคยจัดทำคู่มือ 72 อาวส์ฯ เที่ยวกรุงเทพฯมาแล้ว ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า ทั้งเชียงใหม่ และภูเก็ต ต่างก็เป็นจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทยเช่นกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวเป้าหมาย คือ นักท่องเที่ยวในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ที่เดินทางมาประเทศไทยได้บ่อยครั้งใน 1 ปี รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตนเอง หรือเอฟไอที และนักท่องเที่ยวที่มาซ้ำ ซึ่งหนังซื้อเล่มนี้จะแนะนำแหล่งท่องเที่ยว แหล่งชอปปิ้ง โรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นคู่มือในการเข้ามาพักที่ประเทศไทยในช่วง 3 วัน 2 คืน
“ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตนเอง จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักธุรกิจ ซึ่งถือเป็นตลาดไฮเอนด์ ตรงตามนโยบายของททท.และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยจะนิยมพักโรงแรมขนาดกระทัดรัดที่มีสไตล์การตกแต่งสวยงาม หรือบูติคโฮเทล ชอบทานอาหารและชอปปิ้ง ซึ่งในหนังสือคู่มือเล่มนี้จะมีข้อมูลบรรจุอยู่ทั้งหมด เป็นข้อมูลใหม่ๆ ที่ เราจะอัปเดตใส่ไว้ทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นตลาดสำคัญ ที่ ททท.ต้องการกระตุ้นให้เกิดมาซ้ำปีละหลายๆ ครั้ง โดยจะนำเสนอให้ประเทศไทยเป็นวีคเอนด์เดสติเนชั่น สำหรับ ครอบครัว และ คนทำงาน ที่ต้องการจะเดินทางพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งปัจจุบัน จ.ภูเก็ต มีสายการบินโลว์คอสต์ จากหลายเมืองบินตรงมาลง จ.ภูเก็ต ส่วน จ.เชียงใหม่ ก็จะได้อานิสงส์ จากเส้นทางถนน ที่เชื่อมจากตอนใต้ของจีน เข้ามาทาง จ.เชียงราย หรือ จาก ประเทศลาว ผ่านมาทาง จ.น่าน ซึ่งการคมนาคม ที่สะดวกขึ้นที่มองว่า จะยิ่งส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวกันในภูมิภาคเพิ่มขึ้น
ส่วนประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุด สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ก็เปิดเส้นทาง กรุงเทพฯ-จาการ์ตา เป็นเดลี่ไฟลต์ จะทำให้ตลาดอินโดนีเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยปีที่ผ่านมา ตลาดอินโดนีเซีย เข้ามาเที่ยวประเทศไทย 233,919 คน เพิ่มขึ้น 7.22% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตลาดนี้ เมื่อเข้ามาเที่ยวจะใช้จ่ายสูง เฉลี่ยกว่า 3,400 บาทต่อคนต่อวัน โดยชอบการชอปปิ้งมากที่สุด
นางจุฑาพร กล่าวเสริมอีกว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน มีตัวเลขการเดินทางของนักท่องเที่ยวเติบโตสูง เช่น ลาว มาเที่ยวไทย 521,062 คน เพิ่มขึ้น 84.62% ขณะที่ พม่า, กัมพูชา และเวียดนาม ก็มีตัวเลขเติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ส่วนหนึ่งเป็นคนจากประเทศนั้นๆ และอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเอสแพก หรือ ชาวต่างชาติ ที่เข้าไปทำงานในประเทศนั้นๆ
นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ททท.อยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือคู่มือท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ และ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะอยู่ในโครงการ 72 อาวส์ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ โดยหนังสือทั้ง 2 เล่มดังกล่าว เป็น แผนงานที่ต่อยอดจากเดิม ที่ ททท.ได้เคยจัดทำคู่มือ 72 อาวส์ฯ เที่ยวกรุงเทพฯมาแล้ว ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า ทั้งเชียงใหม่ และภูเก็ต ต่างก็เป็นจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทยเช่นกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวเป้าหมาย คือ นักท่องเที่ยวในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ที่เดินทางมาประเทศไทยได้บ่อยครั้งใน 1 ปี รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตนเอง หรือเอฟไอที และนักท่องเที่ยวที่มาซ้ำ ซึ่งหนังซื้อเล่มนี้จะแนะนำแหล่งท่องเที่ยว แหล่งชอปปิ้ง โรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมบริการด้านการท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นคู่มือในการเข้ามาพักที่ประเทศไทยในช่วง 3 วัน 2 คืน
“ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตนเอง จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และนักธุรกิจ ซึ่งถือเป็นตลาดไฮเอนด์ ตรงตามนโยบายของททท.และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยจะนิยมพักโรงแรมขนาดกระทัดรัดที่มีสไตล์การตกแต่งสวยงาม หรือบูติคโฮเทล ชอบทานอาหารและชอปปิ้ง ซึ่งในหนังสือคู่มือเล่มนี้จะมีข้อมูลบรรจุอยู่ทั้งหมด เป็นข้อมูลใหม่ๆ ที่ เราจะอัปเดตใส่ไว้ทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถือเป็นตลาดสำคัญ ที่ ททท.ต้องการกระตุ้นให้เกิดมาซ้ำปีละหลายๆ ครั้ง โดยจะนำเสนอให้ประเทศไทยเป็นวีคเอนด์เดสติเนชั่น สำหรับ ครอบครัว และ คนทำงาน ที่ต้องการจะเดินทางพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งปัจจุบัน จ.ภูเก็ต มีสายการบินโลว์คอสต์ จากหลายเมืองบินตรงมาลง จ.ภูเก็ต ส่วน จ.เชียงใหม่ ก็จะได้อานิสงส์ จากเส้นทางถนน ที่เชื่อมจากตอนใต้ของจีน เข้ามาทาง จ.เชียงราย หรือ จาก ประเทศลาว ผ่านมาทาง จ.น่าน ซึ่งการคมนาคม ที่สะดวกขึ้นที่มองว่า จะยิ่งส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวกันในภูมิภาคเพิ่มขึ้น
ส่วนประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุด สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ก็เปิดเส้นทาง กรุงเทพฯ-จาการ์ตา เป็นเดลี่ไฟลต์ จะทำให้ตลาดอินโดนีเซียเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยปีที่ผ่านมา ตลาดอินโดนีเซีย เข้ามาเที่ยวประเทศไทย 233,919 คน เพิ่มขึ้น 7.22% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตลาดนี้ เมื่อเข้ามาเที่ยวจะใช้จ่ายสูง เฉลี่ยกว่า 3,400 บาทต่อคนต่อวัน โดยชอบการชอปปิ้งมากที่สุด
นางจุฑาพร กล่าวเสริมอีกว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน มีตัวเลขการเดินทางของนักท่องเที่ยวเติบโตสูง เช่น ลาว มาเที่ยวไทย 521,062 คน เพิ่มขึ้น 84.62% ขณะที่ พม่า, กัมพูชา และเวียดนาม ก็มีตัวเลขเติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ส่วนหนึ่งเป็นคนจากประเทศนั้นๆ และอีกส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเอสแพก หรือ ชาวต่างชาติ ที่เข้าไปทำงานในประเทศนั้นๆ