เพียวริคุ ชี้แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 3,600 ล้านบาทโตต่อเนื่อง เหตุเหลือแต่รายใหญ่ในตลาดแข่งขันดุเดือดรับช่วงหน้าร้อน ล่าสุดชูกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง พร้อมดัมป์ราคาลงแค่ขวดละ 10 บาท หวังขยายฐานลูกค้าระดับรากหญ้า ดึง กอล์ฟ-ไมค์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งเป้าสิ้นปีฟันแชร์เพิ่ม 15% รั้งตำแหน่งเบอร์สองในตลาดชาพร้อมดื่มรองจากโออิชิ
นางสาวสุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาขาวยี่ห้อ เพียวริคุ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 3,600 ล้านบาทในปีนี้ยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่หวือหวาเหมือนกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโตสูง แต่เชื่อว่าปีนี้จะมีการเติบโตขึ้น เพราะเหลือคู่แข่งที่ทำตลาดอยู่ไม่กี่ยี่ห้อที่ทำตลาดอย่างจริงจังหลังจากที่มีคู่แข่งรายหลายรายเลิกทำตลาดไป ประกอบกับว่า สภาพอากาศร้อน มีสินค้าใหม่ และมีการทุ่มงบการทำตลาดอย่างรุนแรงเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงหน้าร้อนเพราะเป็นหน้าขายที่สำคัญของตลาดชาพร้อมดื่มคิดเป็นสัดส่วน 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำตลาดปีนี้ของชาขาวเพียวริคุ จะเน้นกลยุทธ์ไซส์ซิ่งและราคาสินค้า โดยการผลิตชาขาวเพียวริคุ ฟรุ๊ท ไวท์ที ขนาด 350 มิลลิลิตร ราคา 12 บาทออกมาวางจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นในร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าย่อยทั่วประเทศเพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในระดับรากหญ้าให้สามารถดื่มชาขาวเพียวริคุได้ง่ายขึ้นจากเดิมวางจำหน่ายในขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 20 บาทในชาขาวสูตรดั้งเดิม ซึ่งยังคงวางจำหน่ายอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นหลัก
“ตอนนี้เราจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าที่นำฝาเพียวริคุ 10 ฝาสามารถแลกเพียวริคุดื่มฟรี 1 ขวดนับตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปี พร้อมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง โดยลดราคาเหลือแค่ขวดละ 10 บาทจากปกติขายที่ 12 บาท เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น”
นางสาวสุวรรณดี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันนี้ทางบริษัทฯได้เพิ่มงบการตลาดอีก 10% เพื่อตอกย้ำแบรนด์ในใจผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12-17 ปีที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมต้น และมัธยมปลาย ด้วยการดึง 2 นักร้องวัยรุ่น กอล์ฟ-ไมค์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับชาขาวเพียวริคุเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อดึงให้กลุ่มวัยรุ่นหันมาดื่มมากขึ้น พร้อมกันนี้มีการจัดกิจกรรมร่วมกับนักร้อง 2 คนนี้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ อาทิ การนำภาพการ์ตูนของทั้งคู่ลงในบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบของลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นให้แฟนคลับสะสม หรือว่าการจัดคอนเสิร์ต เป็นต้น
จากแนวทางการทำตลาดดังกล่าว บริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 15% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 11% หลังจากที่ทำการตลาดมา 4 ปี โดยยังคงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองรองจากโออิชิที่มีส่วนแบ่งตลาด 60% จากตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 3,600 ล้านบาท ที่มีอัตราการเติบโตปีละ 20%
นางสาวสุวรรณดี ไชยวรุตม์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาขาวยี่ห้อ เพียวริคุ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 3,600 ล้านบาทในปีนี้ยังคงมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะไม่หวือหวาเหมือนกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมาที่มีการเติบโตสูง แต่เชื่อว่าปีนี้จะมีการเติบโตขึ้น เพราะเหลือคู่แข่งที่ทำตลาดอยู่ไม่กี่ยี่ห้อที่ทำตลาดอย่างจริงจังหลังจากที่มีคู่แข่งรายหลายรายเลิกทำตลาดไป ประกอบกับว่า สภาพอากาศร้อน มีสินค้าใหม่ และมีการทุ่มงบการทำตลาดอย่างรุนแรงเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงหน้าร้อนเพราะเป็นหน้าขายที่สำคัญของตลาดชาพร้อมดื่มคิดเป็นสัดส่วน 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม แนวทางการทำตลาดปีนี้ของชาขาวเพียวริคุ จะเน้นกลยุทธ์ไซส์ซิ่งและราคาสินค้า โดยการผลิตชาขาวเพียวริคุ ฟรุ๊ท ไวท์ที ขนาด 350 มิลลิลิตร ราคา 12 บาทออกมาวางจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นในร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าย่อยทั่วประเทศเพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในระดับรากหญ้าให้สามารถดื่มชาขาวเพียวริคุได้ง่ายขึ้นจากเดิมวางจำหน่ายในขนาด 500 มิลลิลิตร ราคา 20 บาทในชาขาวสูตรดั้งเดิม ซึ่งยังคงวางจำหน่ายอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นหลัก
“ตอนนี้เราจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าที่นำฝาเพียวริคุ 10 ฝาสามารถแลกเพียวริคุดื่มฟรี 1 ขวดนับตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นปี พร้อมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง โดยลดราคาเหลือแค่ขวดละ 10 บาทจากปกติขายที่ 12 บาท เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น”
นางสาวสุวรรณดี กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันนี้ทางบริษัทฯได้เพิ่มงบการตลาดอีก 10% เพื่อตอกย้ำแบรนด์ในใจผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 12-17 ปีที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมต้น และมัธยมปลาย ด้วยการดึง 2 นักร้องวัยรุ่น กอล์ฟ-ไมค์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับชาขาวเพียวริคุเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อดึงให้กลุ่มวัยรุ่นหันมาดื่มมากขึ้น พร้อมกันนี้มีการจัดกิจกรรมร่วมกับนักร้อง 2 คนนี้อย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ อาทิ การนำภาพการ์ตูนของทั้งคู่ลงในบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบของลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นให้แฟนคลับสะสม หรือว่าการจัดคอนเสิร์ต เป็นต้น
จากแนวทางการทำตลาดดังกล่าว บริษัทฯเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 15% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 11% หลังจากที่ทำการตลาดมา 4 ปี โดยยังคงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองรองจากโออิชิที่มีส่วนแบ่งตลาด 60% จากตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 3,600 ล้านบาท ที่มีอัตราการเติบโตปีละ 20%