บางจากเล็งผุดโครงการใหม่มูลค่าพันล้านบาท ชี้ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตน้ำตาล 2-3 ราย ผุดโครงการผลิตเอทานอลขนาด 2-3 แสนลิตร/วัน คาดได้ข้อสรุปปีนี้ ขณะที่โครงการผลิตไบโอดีเซล 3 แสนลิตร/วัน เซ็นสัญญารวด 3 สัญญา ทั้งก่อสร้าง เงินกู้ และซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ฟุ้งสร้างรายได้เพิ่ม 4 พันล้านบาท หลังโครงการเสร็จกลางปี 2552
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากมีความสนใจลงทุนโครงการผลิตเอทานอลขนาด 2-3 แสนลิตร/วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตน้ำตาล 2-3 ราย คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท โดยบางจากจะถือหุ้น 30-50%
ทั้งนี้ โครงการผลิตเอทานอลดังกล่าวจะเป็นการผลิต เพื่อป้อนโรงกลั่นบางจาก และที่เหลืออีกส่วนหนึ่งจะส่งออกไปต่างประเทศ เนื่องจากปริมาณการผลิตเอทานอลในประเทศเกินความต้องการใช้ โดยปัจจุบันโรงกลั่นบางจากใช้เอทานอลอยู่วันละ 1.5 แสนลิตร ซึ่งตนได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจัดโรดโชว์ถึงความพร้อมของไทยในการเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนที่ญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นลู่ทางตลาดส่งออกเอทานอลของไทย โดยคาดว่าไทยจะส่งออกเอทานอลคิดเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ในอีก 8 ปีข้างหน้า
“ขณะนี้ไทยส่งออกเอทานอลยังน้อยอยู่ หากรัฐมีกฎหมายให้ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 8 ส่งออกเอทานอลได้ บางจากก็สนใจที่จะส่งออกเอทานอล ถือเป็นการระบายเอทานอลด้วย ซึ่งผู้ค้าน้ำมันจะมีความพร้อมในการทำตลาดส่งออกเอทานอลเพราะมีคลังเก็บสำรองไว้ ซึ่งปัจจุบันบางจากสต็อกเอทานอลอยู่ 3-4 ล้านลิตรใช้ได้นาน 1 เดือน”
*** ตั้งศูนย์ผลิตไบโอดีเซล 3แสนลิตร/วัน
วานนี้ (20 มี.ค.) พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาศูนย์ผลิตไบโอดีเซล 3 แสนลิตร/วัน ที่บางปะอิน จ.อยุธยา ระหว่างบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้สินเชื่อวงเงิน 900 กว่าล้านบาท, บริษัททีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้าง และสัญญาซื้อวัตถุดิบน้ำมันปาล์มดิบจากบริษัท ทักษิณอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (1993) จำกัด บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)และบริษัท ยูนิปาล์มอินดัสทรี จำกัด
ทั้งนี้ บางจากได้ร่วมทุนกับบริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (ยูเอซี) เพื่อจัดตั้งบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด โดยบางจากถือหุ้น 70% และยูเอซีถือหุ้น 30% เพื่อสร้างโรงไบโอดีเซลขนาด 3 แสนลิตร/วัน มูลค่าเงินลงทุน 1พันล้านบาท คาดว่า จะแล้วเสร็จกลางปี 2552
สำหรับโครงการนี้จะสร้างรายได้ประมาณ 4 พันล้านบาท และในอนาคตบางจากมีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์วิจัยและผลิตพลังงานทดแทนแบบครบวงจร และเปิดโอกาสให้พันธมิตรที่สนใจเข้าร่วมลงทุน
“โครงการดังกล่าวนี้จะสร้างความมั่นคงในการจัดหาไบโอดีเซล รองรับการผลิตน้ำมันดีเซลที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) ที่จะแล้วเสร็จปลายปีนี้ ทำให้มีปริมาณน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจาก 120 ล้านลิตร/เดือนเป็น 200 ล้านลิตร/เดือน โดยถ้าผสมไบโอดีเซลเป็นบี 5 จะใช้ไบโอดีเซล 2 แสนลิตร/วัน แต่ถ้าผสมเป็นบี 10 จะใช้ไบโอดีเซลทั้งสิ้น 3 แสนลิตร/วัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีปริมาณไบโอดีเซลเหลือขายประมาณ 7-8 หมื่นลิตร/วัน”
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า จากราคาน้ำมันดิบตลาดจรเวสต์เทกซัสได้ปรับตัวลดลง 4.94 เหรียญสหรัฐฯมาอยู่ที่ 104.48 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดิมติดลบอยู่ เป็นบวก 10-20 สตางค์ และค่าการตลาดเบนซิน 2 บาท/ลิตร หากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอีก ก็น่าจะมีการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีนี้ บางจากขาดทุนค่าการตลาด 100 ล้านบาท โดยเดือนนี้ค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งเบนซินและดีเซลอยู่ที่ 23 สตางค์/ลิตร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าการตลาดที่ควรจะเป็น 1.50 บาท/ลิตร แต่ได้มาร์จินจากธุรกิจการกลั่นทำให้ผลการดำเนินงานบริษัทฯไตรมาสแรกได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบจากกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.02 หมื่นล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 42 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และมีมาร์จินจากค่าการกลั่นมาถัวเฉลี่ยค่าการตลาดจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่ต่ำ
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากมีความสนใจลงทุนโครงการผลิตเอทานอลขนาด 2-3 แสนลิตร/วัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ผลิตน้ำตาล 2-3 ราย คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1 พันกว่าล้านบาท โดยบางจากจะถือหุ้น 30-50%
ทั้งนี้ โครงการผลิตเอทานอลดังกล่าวจะเป็นการผลิต เพื่อป้อนโรงกลั่นบางจาก และที่เหลืออีกส่วนหนึ่งจะส่งออกไปต่างประเทศ เนื่องจากปริมาณการผลิตเอทานอลในประเทศเกินความต้องการใช้ โดยปัจจุบันโรงกลั่นบางจากใช้เอทานอลอยู่วันละ 1.5 แสนลิตร ซึ่งตนได้เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจัดโรดโชว์ถึงความพร้อมของไทยในการเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทนที่ญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเป็นลู่ทางตลาดส่งออกเอทานอลของไทย โดยคาดว่าไทยจะส่งออกเอทานอลคิดเป็นมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ในอีก 8 ปีข้างหน้า
“ขณะนี้ไทยส่งออกเอทานอลยังน้อยอยู่ หากรัฐมีกฎหมายให้ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 8 ส่งออกเอทานอลได้ บางจากก็สนใจที่จะส่งออกเอทานอล ถือเป็นการระบายเอทานอลด้วย ซึ่งผู้ค้าน้ำมันจะมีความพร้อมในการทำตลาดส่งออกเอทานอลเพราะมีคลังเก็บสำรองไว้ ซึ่งปัจจุบันบางจากสต็อกเอทานอลอยู่ 3-4 ล้านลิตรใช้ได้นาน 1 เดือน”
*** ตั้งศูนย์ผลิตไบโอดีเซล 3แสนลิตร/วัน
วานนี้ (20 มี.ค.) พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาศูนย์ผลิตไบโอดีเซล 3 แสนลิตร/วัน ที่บางปะอิน จ.อยุธยา ระหว่างบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด กับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้สินเชื่อวงเงิน 900 กว่าล้านบาท, บริษัททีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้าง และสัญญาซื้อวัตถุดิบน้ำมันปาล์มดิบจากบริษัท ทักษิณอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (1993) จำกัด บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน)และบริษัท ยูนิปาล์มอินดัสทรี จำกัด
ทั้งนี้ บางจากได้ร่วมทุนกับบริษัท ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (ยูเอซี) เพื่อจัดตั้งบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด โดยบางจากถือหุ้น 70% และยูเอซีถือหุ้น 30% เพื่อสร้างโรงไบโอดีเซลขนาด 3 แสนลิตร/วัน มูลค่าเงินลงทุน 1พันล้านบาท คาดว่า จะแล้วเสร็จกลางปี 2552
สำหรับโครงการนี้จะสร้างรายได้ประมาณ 4 พันล้านบาท และในอนาคตบางจากมีเป้าหมายพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์วิจัยและผลิตพลังงานทดแทนแบบครบวงจร และเปิดโอกาสให้พันธมิตรที่สนใจเข้าร่วมลงทุน
“โครงการดังกล่าวนี้จะสร้างความมั่นคงในการจัดหาไบโอดีเซล รองรับการผลิตน้ำมันดีเซลที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) ที่จะแล้วเสร็จปลายปีนี้ ทำให้มีปริมาณน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจาก 120 ล้านลิตร/เดือนเป็น 200 ล้านลิตร/เดือน โดยถ้าผสมไบโอดีเซลเป็นบี 5 จะใช้ไบโอดีเซล 2 แสนลิตร/วัน แต่ถ้าผสมเป็นบี 10 จะใช้ไบโอดีเซลทั้งสิ้น 3 แสนลิตร/วัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีปริมาณไบโอดีเซลเหลือขายประมาณ 7-8 หมื่นลิตร/วัน”
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า จากราคาน้ำมันดิบตลาดจรเวสต์เทกซัสได้ปรับตัวลดลง 4.94 เหรียญสหรัฐฯมาอยู่ที่ 104.48 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ทำให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดิมติดลบอยู่ เป็นบวก 10-20 สตางค์ และค่าการตลาดเบนซิน 2 บาท/ลิตร หากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอีก ก็น่าจะมีการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินลง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ต้นปีนี้ บางจากขาดทุนค่าการตลาด 100 ล้านบาท โดยเดือนนี้ค่าการตลาดเฉลี่ยทั้งเบนซินและดีเซลอยู่ที่ 23 สตางค์/ลิตร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าการตลาดที่ควรจะเป็น 1.50 บาท/ลิตร แต่ได้มาร์จินจากธุรกิจการกลั่นทำให้ผลการดำเนินงานบริษัทฯไตรมาสแรกได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบจากกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.02 หมื่นล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 42 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และมีมาร์จินจากค่าการกลั่นมาถัวเฉลี่ยค่าการตลาดจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่ต่ำ