คาเนโบ ปรับโครงสร้างแบรนด์สินค้าใหม่ ปั้น คอร์เฟร ดอร์-ลูน่าโซล กรุยตลาดไทย พร้อมปรับกลยุทธ์โฟกัส 4 แบรนด์เรือธงแทนการหว่านแหทำตลาดทุกแบรนด์ อัดงบเพิ่มขึ้น 10% บูมสินค้าแดนปลาดิบให้เป็นที่นิยม สิ้นปีกวาดรายได้กว่า 280 ล้านบาท โต 15% 3 ปี ขึ้นอันดับท็อปเทน
นายโทมิโอะ โอนิชิ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางคาเนโบ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างการนำแบรนด์เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยใหม่ โดยนำแบรนด์คอร์เฟร ดอร์ เครื่องสำอางใกล้เคียงกับ ชิเซโด และ มากียาจ มาแทนที่แบรนด์เทสติโม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20 ปี โดยจะวางจำหน่าย 75 เคาน์เตอร์ของคาเนโบ และนำเครื่องสำอางลูน่าโซล มาแทนที่แบรนด์เซ็นไซ เจาะกลุ่มอายุ 25 ปี จำหน่ายเพียง 13 สาขา ทั้งนี้ การนำแบรนด์ใหม่เข้ามา เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งในแต่ละประเทศนโยบายการทำตลาดไม่เหมือนกัน
สำหรับแผนการตลาดปีนี้เน้นทำตลาด 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ อิมเพลส สกินแคร์ระดับไฮเอนด์ ราคา 3,000-18,000 บาท บลองเชียร์ กลุ่มสกินแคร์ เป็นสินค้าเรือธงโดยระดับราคา 1,100-3,500 บาท ลูน่าโซล ราคา 1,000-2,000 บาท และคอร์เฟร ดอร์ 900-1,650 บาท โดยได้ตั้งเป้ายอดขาย 4 แบรนด์ ในสัดส่วน 70-80% หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทเน้นทำตลาดร่วม 10 แบรนด์ ในขณะที่งบการตลาดน้อยทำให้แบรนด์ไม่ได้เป็นที่รับรู้มากนัก โดยปีนี้บริษัทได้เพิ่มงบการตลาด 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คาเนโบให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม
“คอร์เฟร ดอร์ เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น ในคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิ สามารถสร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ต่อมาได้ทยอยเปิดตัวในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และล่าสุด ที่ประเทศไทย ประกอบด้วย ลิปสติก บรัชออน อายไลเนอร์ มาสคาร่า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายคอร์เฟร ดอร์ จะผลักดันให้คาเนโบ ก้าวขึ้นอันดับ 10 ในตลาดเครื่องสำอางพรีเมียมภายใน 3 ปี
นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทมุ่งเน้นเพิ่มลูกค้าและฐานลูกค้าจาก 2 หมื่นราย เป็น 3 หมื่นราย การบริการลูกค้าเปิดให้นวดฟรีที่เคาน์เตอร์ การแจกสินค้าตัวอย่าง และเตรียมขยายสาขาเพิ่มแต่ขึ้นอยู่กับการขยายสาขาของห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก โดยปัจจุบันเคาน์เตอร์แบรนด์คาเนโบ มีทั้งหมด 75 สาขา และเตรียมปรับปรุงเคาน์เตอร์ใหม่ ทั้งนี้ จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุก บริษัทตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้คาเนโบจะมียอดขายเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 250 ล้านบาท เติบโต 6%
แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์มูลค่า 7,000-10,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 4-5% โดยมองว่าตลาดยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอยู่แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยไม่ดีมากนัก แต่ก็ไม่กระทบกับตลาดเครื่องสำอาง ขณะที่การแข่งขันมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
นายโทมิโอะ โอนิชิ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางคาเนโบ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างการนำแบรนด์เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยใหม่ โดยนำแบรนด์คอร์เฟร ดอร์ เครื่องสำอางใกล้เคียงกับ ชิเซโด และ มากียาจ มาแทนที่แบรนด์เทสติโม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20 ปี โดยจะวางจำหน่าย 75 เคาน์เตอร์ของคาเนโบ และนำเครื่องสำอางลูน่าโซล มาแทนที่แบรนด์เซ็นไซ เจาะกลุ่มอายุ 25 ปี จำหน่ายเพียง 13 สาขา ทั้งนี้ การนำแบรนด์ใหม่เข้ามา เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งในแต่ละประเทศนโยบายการทำตลาดไม่เหมือนกัน
สำหรับแผนการตลาดปีนี้เน้นทำตลาด 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ อิมเพลส สกินแคร์ระดับไฮเอนด์ ราคา 3,000-18,000 บาท บลองเชียร์ กลุ่มสกินแคร์ เป็นสินค้าเรือธงโดยระดับราคา 1,100-3,500 บาท ลูน่าโซล ราคา 1,000-2,000 บาท และคอร์เฟร ดอร์ 900-1,650 บาท โดยได้ตั้งเป้ายอดขาย 4 แบรนด์ ในสัดส่วน 70-80% หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทเน้นทำตลาดร่วม 10 แบรนด์ ในขณะที่งบการตลาดน้อยทำให้แบรนด์ไม่ได้เป็นที่รับรู้มากนัก โดยปีนี้บริษัทได้เพิ่มงบการตลาด 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คาเนโบให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม
“คอร์เฟร ดอร์ เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น ในคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิ สามารถสร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่ง ต่อมาได้ทยอยเปิดตัวในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และล่าสุด ที่ประเทศไทย ประกอบด้วย ลิปสติก บรัชออน อายไลเนอร์ มาสคาร่า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายคอร์เฟร ดอร์ จะผลักดันให้คาเนโบ ก้าวขึ้นอันดับ 10 ในตลาดเครื่องสำอางพรีเมียมภายใน 3 ปี
นอกจากนี้ ปีนี้บริษัทมุ่งเน้นเพิ่มลูกค้าและฐานลูกค้าจาก 2 หมื่นราย เป็น 3 หมื่นราย การบริการลูกค้าเปิดให้นวดฟรีที่เคาน์เตอร์ การแจกสินค้าตัวอย่าง และเตรียมขยายสาขาเพิ่มแต่ขึ้นอยู่กับการขยายสาขาของห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก โดยปัจจุบันเคาน์เตอร์แบรนด์คาเนโบ มีทั้งหมด 75 สาขา และเตรียมปรับปรุงเคาน์เตอร์ใหม่ ทั้งนี้ จากการดำเนินการตลาดในเชิงรุก บริษัทตั้งเป้าหมายสิ้นปีนี้คาเนโบจะมียอดขายเติบโต 15% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 250 ล้านบาท เติบโต 6%
แนวโน้มตลาดเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์มูลค่า 7,000-10,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 4-5% โดยมองว่าตลาดยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอยู่แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยไม่ดีมากนัก แต่ก็ไม่กระทบกับตลาดเครื่องสำอาง ขณะที่การแข่งขันมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยมีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง