ดร.โกร่ง เตือนให้เตรียมพร้อมรับมือ ความผันผวนครั้งใหญ่ คาด ศก.ไทยเข้าสู่เศรษฐกิจขาลงยาว 2 ปี พร้อมจวกเละนโยบายการเงิน ธปท.ผิดพลาด ใช้เป้าหมายเงินเฟ้อกำหนดทิศทางตลาดเงิน ชี้การตรึงอัตรา ดบ.เป็นตัวการสำคัญซ้ำเติมปัญหาบาทแข็ง พร้อมยืนยัน ภาคการส่งออก ถือเป็นพระเอกที่ประคองภาวะเศรษฐกิจไทย
วันนี้ (29 ก.พ.) ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่องเศรษฐกิจไทยใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกรับฟังข้อมูล โดยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายในระบบการเงินของไทย ขณะนี้ ไม่สะท้อนปัญหาของประเทศ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้เป้าหมายเงินเฟ้อในการบริหารนโยบายทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่ามากกว่าเงินสกุลอื่นในเอเชีย และจะยิ่งแข็งค่าเร็วขึ้น หากไม่มีการลดดอกเบี้ย
“เป็นการใช้นโยบายการเงินที่ผิดพลาด ทำให้เศรษฐกิจไทยในอนาคตมีความน่าเป็นห่วง เพราะอยู่ในช่วงอันตราย โดยเศรษฐกิจไทยจะอยู่ช่วงเศรษฐกิจขาลงทั้งในปีนี้และปีหน้า และจะทยอยเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง โดยที่มีปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อทำให้เป็นเศรษฐกิจที่จัดการได้ยาก”
ดร.วีรพงษ์ กล่าวว่า จากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ จึงมองว่าการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้มีการขยายตัวถึง 15% นั้นจะเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ธปท.ควรเปลี่ยนความคิดในการบริหารนโยบายการเงิน โดยนำเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจแทนอัตราเงินเฟ้อ
“นโยบายการเงินไม่ได้สะท้อนปัญหาของประเทศ เพราะว่า ธปท.มัวแต่เห็นว่าเงินเฟ้อสำคัญกว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ได้ใช้เงินเฟ้อเป็นตัวตั้ง จึงทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วกว่า และหากว่าทัศนคตินโยบายการเงินของแบงก์ชาติยังเป็นอย่างนี้ค่าเงินบาทก็จะแข็งค่าไปเรื่อยๆ จนกว่าเศรษฐกิจจะพังหมด และค่าเงินบาทก็ถึงจะอ่อนลงมา”
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในช่วง 2 ปี จากนี้ไปจะเป็นภาวะขาลง และจะค่อยๆจะขยับเป็นเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่จัดการได้ยาก
ดร.วีรพงษ์ ยืนยันว่า ขณะนี้การส่งออกเป็นตัวที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวได้ ขณะที่การบริการและการท่องเที่ยวไม่ได้เป็นตัวที่ช่วย เพราะปัญหาเรื่องของการเมืองในปีที่ผ่านๆ มา ประกอบกับปัจจัยภายนอก ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ และยุโรป รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยที่เข้ามารุมเร้า โดยเศรษฐกิจไทยยังมีความโชคดีอีกอย่างหนึ่ง เศรษฐกิจภายในภูมิภาคเอเชียยังมีการขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูง
ดังนั้น ในอีก 5 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจจีนและอินเดียจะเป็นตัวที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจโลก และประเทศไทยก็ควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย
“ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีการส่งออกเป็นตัวนำ ถ้าไม่มีการดูแลค่าเงินที่เหมาะสม เป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ 15 % คงเป็นไปได้ยาก”
