พรศิริ สั่งฟันไม่เลี้ยง บริษัททัวร์ ไกด์ และ ร้านอาหาร ที่แอบอ้างนำโลโก้ของ ททท.ไปใช้ เกรงเป็นช่องทางมิจฉาชีพแอบอ้างบังหน้าหวังหลอกลวงนักท่องเที่ยว พร้อมเร่งฝ่ายนิติการรีบจดทะเบียนโลโก้โดยเร็ว ก่อนส่งงานต่อให้ สพท.ในอีก 2 เดือนหน้า แขวน นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ หลังทำงานล่าช้า
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายนิติการของ ททท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ประกอบการ ที่แอบอ้างนำโลโก้ของ ททท.ไปใช้เพื่อการค้า ทั้งนี้ เพราะ ททท.ไม่ได้อนุญาตให้ใครนำโลโก้ของ ททท.ไปตั้งโชว์ หรือแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะต้องการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการทุกรายเท่าเทียมกัน เนื่องจากเราเป็นหน่วยงานของภาคราชการจะไปการันตีให้แก่องค์กรเอกชนรายใดรายหนึ่งไม่ได้ ขณะเดียวกัน การนำโลโก้ของ ททท.ไปแอบอ้างใช้เช่นนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวหลงผิดเกิดความเชื่อถือและหากถูกหลอกลวง ก็จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรของ ททท.และประเทศไทย
ข้อมูลล่าสุดจากการประชุมรายงานความคืบหน้าการตรวจจับผู้กระทำผิด มีบริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร และ มัคคุเทศก์ รวมกว่า 50 ราย ที่แอบอ้างนำโลโก้ของ ททท.ไปใช้ เบื้องต้นจะให้เจ้าหน้าที่ของ ททท.ตักเตือนด้วยคำพูดก่อน หากยังไม่ปลดโลโก้ลงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายรายก็ให้ความร่วมมือดี เมื่อเจ้าหน้าที่ของ ททท.เข้าไปชี้แจงว่าไม่สามารถนำโลโก้ของ ททท.มาติดเพื่อการค้าได้เขาก็ปลดป้ายลง แต่บางรายก็ยังแอบทำต่อ ซึ่งตรงนี้หากปล่อยไปอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้หลอกนักท่องเที่ยวให้หลงเชื่อได้และยังนำความเสื่อมเสียสู่ประเทศไทย จึงจำเป็นต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ททท.กำลังดำเนินการจดทะเบียนโลโก้ ททท.โดยอาจจดในรูปแบบของเอกชนหรือรูปแบบของราชการก็ได้ โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดำเนินการ แต่ล่าสุด ได้สั่งการให้ฝ่ายนิติการ โดยมีนายวิริยะ เกิดผล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป เป็นผู้รับผิดชอบ และยังได้โยกย้าย นายละเอียด ศิลาน้อย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไปเป็นที่ปรึกษาระดับ 9
สำหรับกรณีการโยกย้าย นายละเอียด ศิลาน้อย แหล่งข่าวจาก ททท.ให้ข้อมูลว่า เป็นเพราะมีการทำงานล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องการจดทะเบียนโลโก้ ททท.ซึ่ง ผู้ว่าการ ททท.ได้สั่งให้ดำเนินการตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งใหม่ หรือเกือบ 1 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ ทั้งที่อีก 2 เดือน ททท.ต้องถ่ายโอนงานด้านสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไปอยู่ในความดูแลของสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว จึงจำเป็นต้องเคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วเพื่อส่งมอบงาน ซึ่งขณะนี้ ทั้ง ททท.และ สพท.ได้เริ่มมีการทำงานร่วมกันแล้ว เพื่อการส่งต่องานจะได้ไม่เกิดสุญญากาศ สามารถเดินหน้าต่อได้ทันที
นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายนิติการของ ททท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ประกอบการ ที่แอบอ้างนำโลโก้ของ ททท.ไปใช้เพื่อการค้า ทั้งนี้ เพราะ ททท.ไม่ได้อนุญาตให้ใครนำโลโก้ของ ททท.ไปตั้งโชว์ หรือแอบอ้างเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะต้องการให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการทุกรายเท่าเทียมกัน เนื่องจากเราเป็นหน่วยงานของภาคราชการจะไปการันตีให้แก่องค์กรเอกชนรายใดรายหนึ่งไม่ได้ ขณะเดียวกัน การนำโลโก้ของ ททท.ไปแอบอ้างใช้เช่นนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวหลงผิดเกิดความเชื่อถือและหากถูกหลอกลวง ก็จะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ขององค์กรของ ททท.และประเทศไทย
ข้อมูลล่าสุดจากการประชุมรายงานความคืบหน้าการตรวจจับผู้กระทำผิด มีบริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร และ มัคคุเทศก์ รวมกว่า 50 ราย ที่แอบอ้างนำโลโก้ของ ททท.ไปใช้ เบื้องต้นจะให้เจ้าหน้าที่ของ ททท.ตักเตือนด้วยคำพูดก่อน หากยังไม่ปลดโลโก้ลงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายรายก็ให้ความร่วมมือดี เมื่อเจ้าหน้าที่ของ ททท.เข้าไปชี้แจงว่าไม่สามารถนำโลโก้ของ ททท.มาติดเพื่อการค้าได้เขาก็ปลดป้ายลง แต่บางรายก็ยังแอบทำต่อ ซึ่งตรงนี้หากปล่อยไปอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้หลอกนักท่องเที่ยวให้หลงเชื่อได้และยังนำความเสื่อมเสียสู่ประเทศไทย จึงจำเป็นต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ททท.กำลังดำเนินการจดทะเบียนโลโก้ ททท.โดยอาจจดในรูปแบบของเอกชนหรือรูปแบบของราชการก็ได้ โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดำเนินการ แต่ล่าสุด ได้สั่งการให้ฝ่ายนิติการ โดยมีนายวิริยะ เกิดผล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทั่วไป เป็นผู้รับผิดชอบ และยังได้โยกย้าย นายละเอียด ศิลาน้อย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไปเป็นที่ปรึกษาระดับ 9
สำหรับกรณีการโยกย้าย นายละเอียด ศิลาน้อย แหล่งข่าวจาก ททท.ให้ข้อมูลว่า เป็นเพราะมีการทำงานล่าช้า โดยเฉพาะเรื่องการจดทะเบียนโลโก้ ททท.ซึ่ง ผู้ว่าการ ททท.ได้สั่งให้ดำเนินการตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งใหม่ หรือเกือบ 1 ปีมาแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ ทั้งที่อีก 2 เดือน ททท.ต้องถ่ายโอนงานด้านสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไปอยู่ในความดูแลของสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว จึงจำเป็นต้องเคลียร์งานทุกอย่างให้เสร็จโดยเร็วเพื่อส่งมอบงาน ซึ่งขณะนี้ ทั้ง ททท.และ สพท.ได้เริ่มมีการทำงานร่วมกันแล้ว เพื่อการส่งต่องานจะได้ไม่เกิดสุญญากาศ สามารถเดินหน้าต่อได้ทันที
