ซีพีแนะเกษตรกรเตรียมพื้นที่เพาะปลูกพืชด้วยวิธีไถกลบ ทดแทนการเผาป้องกันไฟไหม้ป่าและปัญหามลพิษ และสิ่งแวดล้อม
นายอาชว์ เตาลานนท์ (Ajva Taulananda) รองประธานกรรมการ (Vice Chairman) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นช่วงที่เกษตรกรมักจะทำการเตรียมพื้นที่เพื่อเพาะปลูกพืชไร่ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกระหว่างปี ยิ่งในปีนี้ก็ทราบโดยทั่วกันว่า ความต้องการพืชพลังงานทดแทนมีปริมาณที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้พืชผลเกษตรมีราคาดีมาก ทั้งยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกษตรกรเตรียมขยายพื้นที่ปลูกมากยิ่งขึ้น และถึงขั้นบุกรุกทำลายป่า
ทั้งนี้ วิธีการที่เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ในการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกก็คือการเผาหน้าดิน หญ้า ตอซัง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลภาวะหมอกควันเป็นพิษ เมื่อประกอบกับภาวะอากาศร้อนและแห้งแล้ง อาจส่งผลถึงขั้นเกิดไฟไหม้ป่าได้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะบริษัทผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาพืชไร่ ดำเนินนโยบายควบคู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้ และมีกิจกรรมปลูกป่าในหลายพื้นที่กว่าแสนไร่ ห่วงใยในปัญหาดังกล่าว จึงขอแนะให้เกษตรกรที่เตรียมพื้นที่เพาะปลูก เลือกวิธีเตรียมดินด้วยการไถกลบแทน ซึ่งจะได้ประโยชน์ในด้านของปุ๋ยและสารอินทรีย์ที่เกิดจากการหมักหมมในดิน อันจะส่งผลให้พืชไร่ที่ปลูกใหม่นั้นเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
“การเตรียมพื้นที่เพาะปลูกด้วยวิธีดังกล่าว อาจเสียค่าใช้จ่ายดำเนินการมากกว่าการเผาบ้างเล็กน้อย แต่ให้ผลดีกับหน้าดิน โดยสามารถเป็นปุ๋ยธรรมชาติและเป็นอาหารของพืชผลที่ลงทุนลงแรงไปนั้นให้งอกงาม รวมทั้งยังช่วยด้านสิ่งแวดล้อมรอบบริเวณในระยะยาว เนื่องจากไม่ต้องสิ้นเปลืองกับการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพง เมื่อเทียบกันแล้วนับว่าคุ้มค่าแก่เกษตรกรมากกว่า และยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกษตรกรทำลายป่าและก่อมลภาวะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์.” นายอาชว์ กล่าวทิ้งท้าย
นายอาชว์ เตาลานนท์ (Ajva Taulananda) รองประธานกรรมการ (Vice Chairman) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เป็นช่วงที่เกษตรกรมักจะทำการเตรียมพื้นที่เพื่อเพาะปลูกพืชไร่ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกระหว่างปี ยิ่งในปีนี้ก็ทราบโดยทั่วกันว่า ความต้องการพืชพลังงานทดแทนมีปริมาณที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้พืชผลเกษตรมีราคาดีมาก ทั้งยางพารา อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกษตรกรเตรียมขยายพื้นที่ปลูกมากยิ่งขึ้น และถึงขั้นบุกรุกทำลายป่า
ทั้งนี้ วิธีการที่เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ในการเตรียมพื้นที่เพาะปลูกก็คือการเผาหน้าดิน หญ้า ตอซัง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลภาวะหมอกควันเป็นพิษ เมื่อประกอบกับภาวะอากาศร้อนและแห้งแล้ง อาจส่งผลถึงขั้นเกิดไฟไหม้ป่าได้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะบริษัทผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาพืชไร่ ดำเนินนโยบายควบคู่กับการอนุรักษ์ป่าไม้ และมีกิจกรรมปลูกป่าในหลายพื้นที่กว่าแสนไร่ ห่วงใยในปัญหาดังกล่าว จึงขอแนะให้เกษตรกรที่เตรียมพื้นที่เพาะปลูก เลือกวิธีเตรียมดินด้วยการไถกลบแทน ซึ่งจะได้ประโยชน์ในด้านของปุ๋ยและสารอินทรีย์ที่เกิดจากการหมักหมมในดิน อันจะส่งผลให้พืชไร่ที่ปลูกใหม่นั้นเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
“การเตรียมพื้นที่เพาะปลูกด้วยวิธีดังกล่าว อาจเสียค่าใช้จ่ายดำเนินการมากกว่าการเผาบ้างเล็กน้อย แต่ให้ผลดีกับหน้าดิน โดยสามารถเป็นปุ๋ยธรรมชาติและเป็นอาหารของพืชผลที่ลงทุนลงแรงไปนั้นให้งอกงาม รวมทั้งยังช่วยด้านสิ่งแวดล้อมรอบบริเวณในระยะยาว เนื่องจากไม่ต้องสิ้นเปลืองกับการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพง เมื่อเทียบกันแล้วนับว่าคุ้มค่าแก่เกษตรกรมากกว่า และยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกษตรกรทำลายป่าและก่อมลภาวะโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์.” นายอาชว์ กล่าวทิ้งท้าย