“ทีพีบีเอส” สะดุดเลื่อนออนแอร์ เรียกพบ บก.รายหัว-จับตาเงินเดือนเพิ่ม

ทีพีบีเอส เลื่อนผังรายการออกอากาศเป็นวันที่ 15 ก.พ.แทน 1 ก.พ.พร้อมเพิ่มเวลาออกอากาศเป็น 12 ชม.คาดมีรายการข่าว 5-6 ชั่วโมง อ้างเวลากระชั้นชิดเกิน ล่าสุด มีการพูดคุยกับตัวแทนองค์ประกอบฝ่ายข่าวทีไอทีวี เพื่อเลือกพนักงานเข้าทำงานเฟสแรก เชื่อพนักงานทีไอทีวี ได้ร่วมงานกว่า 80% แย้มอัตราเงินเดือนสูงกว่าเดิมแน่

นายอภิชาต ทองอยู่ โฆษกคณะกรรมการนโยบายองค์การการกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือ สถานีโทรทัศน์สาธารณะ ไทยพีบีเอส เปิดเผยว่า วานนี้ทางคณะกรรมการนโยบายฯชั่วคราว ได้มีการปรึกษาหารือกันในการเลื่อนเวลาการออกอากาศใหม่จากเดิมออกไปเป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ พร้อมกับเพิ่มเวลาการออกอากาศเป็น 12 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น.แทน จากเดิมที่วางแผนออกอากาศวันแรกในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ตั้งใจว่าจะมีการออกอากาศเป็นเวลา 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.

“ทาง นายเทพชัย หย่อง ได้ขอประชุมกับคณะกรรมการนโยบายฯที่เหลือทั้งหมดอย่างเร่งด่วน เพราะพบปัญหาในการเตรียมรายการข่าวว่ายังไม่พร้อม เพราะเหลือไม่กี่วัน และขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเลือกพนักงานอยู่ จึงได้มีการเลื่อนการออกอากาศออกไป แต่ถือเป็นการเลื่อนที่มีประสิทธิภาพ เพราะผังรายการที่จะออกใหม่นี้ ถือเป็นผังรายการที่มีความพร้อมในการเป็นทีวีสาธารณะกว่า 70-80% เร็วขึ้นจากเดิม ที่คาดว่า จะเห็นความเป็นทีวีสาธารณะระดับนี้ในวันที่ 1 มีนาคม ตามที่เคยกล่าวไว้”

สำหรับผังรายการใหม่ครั้งนี้ เบื้องต้นได้เตรียมนำเสนอรายการข่าวเพิ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่รายการข่าวเช้า รายการข่าวเที่ยง ข่าวค่ำ และข่าวเที่ยงคืน ซึ่งคาดว่าอย่างน้อยแต่ละช่วงข่าวที่นำเสนอจะมีเวลาออกอากาศอย่างน้อย 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังคาดว่า จะมีการนำเสนอข่าวย่อยอีกส่วนหนึ่งด้วย ส่วนเวลาที่เหลือจะเป็นออกอากาศรายการ เช่นเดียวกับรายการที่จะนำมาออกอากาศตามผังทดลองการออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1-14 ก.พ.แทน ซึ่งได้แก่ รายการสารคดี รายการสำหรับเด็ก และละคร ที่เป็นพันธสัญญาผูกพัน เรื่อง นะโม ที่กันตนา ผลิตป้อนให้ทีไอทีวี

** แบ่งหน้าที่กรรมการ

นายอภิชาต กล่าวต่อว่า การประชุมยังมีเรื่องของการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบการทำงาน สำหรับคณะกรรมการนโยบายฯชั่วคราวด้วย โดยตนจะดูแลเรื่องรายการต่างๆ ที่จะนำมาออกอากาศ นายขวัญสรวง อติโพธิ ประธานคณะกรรมการนโยบายฯชั่วคราว จะดูแลเรื่อง สาธารณะสัมพันธ์ ส่วน นายเทพชัย หย่อง รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายข่าว จะดูแลเรื่องการบริหารรายการข่าว ขณะที่ นายณรงค์ ใจหาญ จะดูแลเรื่อง โครงสร้างภายในองค์การและกฎหมาย และ นางนวลน้อย ตรีรัตน์ ดูด้านธุรการและการประสานงานกับทางภาครัฐ รวมถึงพัฒนาสภาผู้ชม

**เรียกพบ บก.ทีละคน ชี้ชะตาพนักงาน**

สำหรับความคืบหน้าในการเลือกพนักงานทีไอทีวีเข้าทำงานในเฟสแรก ล่าสุด วันเดียวกัน นายเทพชัย หย่อง คณะกรรมการนโยบายองค์การการกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และรักษาการผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์สาธารณะ ไทยพีบีเอส  ได้เรียกพบพนักงานทีไอทีวีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรายการข่าว ระดับบรรณาธิการ และหัวหน้า จำนวนกว่า 30 คน โดยเป็นการเรียกพบรายบุคคล ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่า จำนวนพนักงานทีไอทีวีจะได้รับเลือกเข้าทำงานในเฟสแรกประมาณ 80% และเป็นคนนอกที่มาสมัครประมาณ 10-20 คน เท่านั้น

ส่วนสาระการพูดคุยกับทางบรรณาธิการ จะเป็นเรื่องของแนวทางการทำงาน โดยเฉพาะในช่วงภาวะเร่งด่วนของการออกอากาศ และการขอให้เสนอจำนวนพนักงาน และรายชื่อพนักงานในฝ่ายของตน ที่เหมาะสมต่อการทำงานในเฟสแรกนี้  ยกตัวอย่าง เช่น ฝ่ายข่าวต่างประเทศ ซึ่งมีตัวแทนเข้าพูดคุย เป็นระดับรองบรรณาธิการ ได้เสนอเพื่อนร่วมงานไป 7  คน จากทั้งหมด 7 คน เพราะมองว่าการนำเสนอรายการข่าว ที่มีช่วงเวลาข่าวมาก ก็ควรที่จะมีพนักงานเท่าที่ทำอยู่ในทีไอทีวี ส่วนฝ่ายอื่นก็มีการนำเสนอไปตามความเหมาะสม

**สั่งย้ายของก่อน 17.00 น.**

ขณะเดียวกันวานนี้ (24 ม.ค.) ทาง ทีพีบีเอส ได้มีประกาศขอให้พนักงานทีไอทีวีในส่วนฝ่ายข่าว ให้ขนย้ายของออกก่อนเวลา 17.00 น.เพื่อต้องปรับปรุงพื้นที่ และจัดทำฉากต่างๆ รองรับการออกอากาศในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ด้วย โดยบรรยากาศทั่วไป มีพนักงานทีไอทีวีบางส่วนได้ร่วมถ่ายรูป ในบริเวณดังกล่าวเป็นที่ระลึก และบางส่วนได้ขนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย

**มีเฮ เงินเดือนทีพีบีเอส สูงกว่าทีไอทีวี**

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า อัตราเงินเดือนของพนักงานทีวีสาธารณะ น่าจะสูงกว่าอัตราเงินเดือนเดิมของทีไอทีวี เพราะอัตราเงินของทีวีสาธารณะ จะเป็นการพิจารณาเทียบเคียงกับองค์กรที่มีสถานะใกล้เคียงกัน เช่น แบงก์ชาติ หรือ สสส.เนื่องจากเป็นองค์การที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ นอกจากนั้น ยังต้องเทียบเคียงกับการดำเนินงานขององค์การที่คล้ายกันอย่าง อสมท และจากที่ทำงานเดิม อย่าง ทีไอทีวี ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว มีแนวโน้มที่จะได้เงินเดือนสูงกว่าเดิมค่อนข้างสูง