เม็กซิโกเมื่อวันพุธ(10ก.ย.) เปิดเผยว่าจะปรับเพิ่มเพดานภาษียานยนต์นำเข้าจากจีน และประเทศอื่นๆในเอเชีย รวมถึงไทย เป็น 50% ในการยกเครื่องภาษีนำเข้าอย่างครอบคลุม ที่ทางรัฐบาลบอกว่าจะช่วยปกป้องงาน ส่วนนักวิเคราะห์เชื่อมีเป้าหมายบรรเทาเพื่อความโกรธเคืองของสหรัฐฯ
กระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก ระบุว่าความเคลื่อนไหวนี้ ซึ่งจะปรับเพิ่มเพดานภาษีหลากหลายระดับกับสินค้าต่างๆในหลายภาคส่วน ในนั้นรวมถึงสิ่งทอ, เหล็กและยานยนต์ ซึ่งจะกระทบต่อสินค้านำเข้าคิดเป็นมูลค่า 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
"พวกมันโดนรีดภาษีอยู่ก่อนแล้ว" มาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเม็กซิโกบอกกับพวกผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการกำหนดเพดานภาษีรถยนต์นำเข้าจากจีน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 25% "สิ่งที่เราจะทำคือปรับเพิ่มเพดานภาษีในระดับสูงสุดเท่าที่ได้รับอนุญาต หากปราศจากการป้องกันในระดับหนึ่ง คุณก็แทบไม่สามารถแข่งขันได้"
เอบราร์ด บอกว่ามาตรการนี้ มีเจตนาเพื่อปกป้องตำแหน่งงานในเม็กซิโ ขณะที่รถยนต์จีนกำลังไหลบ่าเข้าสู่ตลาดท้องถิ่น "ต่ำกว่าสิ่งที่เราเรียกว่าราคาอ้างอิง"
กระทรวงการต่างประเทศจีนเผยแพร่ถ้อยแถลงในวันพฤหัสบดี(11ก.ย.) ระบุปักกิ่งคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการถูกบีบบังคับโดยประเทศอื่น และข้อจำกัดต่างๆที่กำหนดขึ้นภายใต้คำกล่าวอ้างต่างๆนานา อย่างไรก็ตามจีนแสดงความหวังว่าเม็กซิโกจะหันมาดำเนินการต่างๆ ที่มุ่งหน้าสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและพัฒนาด้านการค้าแทน
"เราจะปกป้องอย่างหนักแน่นต่อสิทธิและผลประโยชน์ของเรา สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริง" หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ
แผนดังกล่าวของเม็กซิโกยังจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา อย่างไรก็ตามเวลานี้พรรครัฐบาลครองเสียงข้างมากในรัฐสภา
กระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโก บอกว่ามาตรการรีดภาษีจะมีผลกับประเทศต่างๆที่ไม่มีข้อตกลงการค้ากับเม็กซิโก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน, เกาหลีใต้, อินเดีย, อินโดนีเซีย, รัสเซีย, ไทย และ ตุรกี ขณะที่แผนนี้จะครอบคลุม 8.6% ของสินค้านำเข้าทั้งหมด และจะช่วยปกป้องงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคกรผลิตราวๆ 325,500 อัตรา ที่ตกอยู่ในความเสี่ยง
นอกจากนี้แล้วในการปรับเพิ่มเพดานภาษีอย่างครอบคลุมดังกล่าว ยังรวมไปถึงการรีดภาษีเหล็ก, ของเล่น และรถจักรยานยนต์ 35% ส่วนสิ่งทอจะพบเห็นเพดานภาษีระหว่าง 10% ถึง 50%
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯพยายามกดดันให้บรรดาชาติต่างๆในละตินอเมริกา จำกัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งแย่งชิงอิทธิพลในภูมิภาค "สหรัฐฯไม่ยอมให้จีนใช้เม็กซิโกเป็นประตูหลังอีกต่อไป" มาเรียนา คัมเปโร นักวิเคาะห์จาก CSIS Americas Program ให้ความเห็น พร้อมระบุเม็กซิโก มีตัวเลขขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มเป็นเท่าตัวในรอบทศวรรษที่ผ่านมา โดยแตะระดับ 120,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปี เอบราร์ด เคยแสดงความคิดเห็นคัดค้านมาตรการรีดภาษี บอกว่ามันเสี่ยงกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและกัดเซาะความพยายามสยบเงินเฟ้อ
สหรัฐฯและเม็กซิโก ซึ่งต่างเป็นหุ้นส่วนในข้อตกลงการค้าเสรีฉบับหนึ่งร่วมกับแคนาดา ต่างเป็นคู่หูการค้าลำดับต้นๆของกันและกัน ขณะที่ข้อตกลงการค้าดังกล่าว ที่ช่วยกันเม็กซิโกจากการถูกรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รีดภาษีสูงลิ่ว มีกำหนดถูกหยิบยกมาพิจารณาทบทวนในปีหน้า
(ที่มา:รอยเตอร์)