เกียวโดนิวส์ (26 มิ.ย.) หัวหน้าคณะเจรจาของญี่ปุ่นได้เริ่มต้นการเจรจารอบใหม่กับสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี โดยย้ำก่อนออกเดินทางว่าภาษีรถยนต์เพิ่มเติมร้อยละ 25 ที่วอชิงตันกำหนดนั้นยังคงไม่สามารถยอมรับได้
เรียวเซอิ อากาซาวะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านนโยบายเศรษฐกิจและการคลังกล่าวว่า เขาหวังที่จะโน้มน้าวให้สหรัฐทบทวนภาษี เนื่องจากการหยุดใช้ภาษีศุลกากรซึ่งกันและกันที่เรียกเก็บจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ เป็นเวลา 90 วันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 9 กรกฎาคม
อากาซาวะกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สนามบินฮาเนดะของโตเกียวก่อนออกเดินทางไปวอชิงตันว่าภาษีรถยนต์ "ไม่ใช่สิ่งที่เรายอมรับได้" สำหรับภาษีนำเข้าที่ชะลออุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างหนัก
การเจรจาระดับรัฐมนตรีรอบที่ 7 ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มว่าจะมีรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลุตนิก เข้าร่วม เช่นเดียวกับการเจรจารอบก่อนๆ ภาษีรถยนต์เป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาทวิภาคีที่เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน
การเยือนครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งแรกของอากาซาวะ นับตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับภาษีดังกล่าวได้ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่แคนาดา ผู้นำทั้งสองตกลงที่จะให้การเจรจาดำเนินต่อไปในระดับรัฐมนตรี
นอกเหนือจากการปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากร้อยละ 2.5 เป็น ร้อยละ 27.5 แล้ว รัฐบาลทรัมป์ยังได้เพิ่มภาษีตามภาคส่วนและเฉพาะประเทศอื่นๆ เพื่อลดการขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่น ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเกิดจากการปฏิบัติทางการค้าที่ "ไม่เป็นธรรม" เป็นหลัก
ภายใต้ระบบภาษีศุลกากรแบบตอบแทน ร่วมกับอัตราพื้นฐานร้อยละ 10 สำหรับสินค้าเกือบทั้งหมดที่นำเข้าโดยสหรัฐฯ ญี่ปุ่นจะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรเฉพาะประเทศเพิ่มเติมร้อยละ 14 ทำให้อัตราภาษีทั้งหมดอยู่ที่ร้อยละ 24
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเจรจา ทรัมป์ได้ระงับภาษีศุลกากรที่กำหนดไว้สูงที่กว่า ร้อยละ 10 สำหรับคู่ค้า 60 ราย รวมถึงญี่ปุ่น เป็นเวลา 90 วัน