พายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามแล้วตอนบ่ายวันจันทร์ (25 ส.ค.) ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนเหนือของชายฝั่งภาคกลางของประเทศ โดยมีต้นไม้จำนวนมากโค่นล้ม และน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ถึงแม้ว่าความเร็วลมของพายุลูกนี้จะลดลงมาจากตอนที่ยังเคลื่อนตัวอยู่ในอ่าวตังเกี๋ยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันก็ตาม
ตามรายงานของหน่วยงานตรวจตราสภาพอากาศของเวียดนาม เมื่อเวลา 16.00 น. ไต้ฝุ่นคาจิกิ ได้ขึ้นฝั่งที่บริเวณจังหวัดเหงะอาน และจังหวัดห่าติ๋ง โดยมีความเร็วลมลดลงเหลือ 118-133 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากตอนเช้าขณะที่มันอยู่ในอ่าวตังเกี๋ยที่มีความเร็วถึง 166 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุลูกนี้ถือเป็นลูกที่ 5 แล้วที่พัดเข้าเวียดนามในปีนี้
“มันน่ากลัวมาก ผมมองลงมาจากชั้นบนเห็นคลื่นสูงถึง 2 เมตร น้ำท่วมถนนที่อยู่รอบๆ เรา” ซาง ซวน เฟือง อายุ 48 ปี ชาวเมืองเกื๋อหล่อ จังหวัดเหงะอาน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโดยตรง กล่าว
รายงานจากสื่อของรัฐระบุว่าไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของจังหวัดห่าติ๋ง หลังคาบ้านถูกลมซัดปลิว และฟาร์มปลาลอยน้ำถูกพัดหาย
ก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนามได้สั่งปิดสนามบิน ปิดโรงเรียน และเริ่มอพยพประชาชนจำนวนมาก เพื่อเตรียมรับมือกับพายุลูกนี้ที่มีกำลังแรงที่สุดในปีนี้ รัฐบาลยังได้เตือนเรื่องที่พายุลูกนี้เคลื่อนตัวเร็วซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และเสริมว่า คาจิกิ จะทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม
เวียดนามมีแนวชายฝั่งทอดยาวหันหน้าออกสู่ทะเลจีนใต้ จึงเสี่ยงต่อพายุที่มักรุนแรงและก่อให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม
หน่วยงานด้านสภาพอากาศระบุว่าปริมาณน้ำฝนในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ อาจสูงถึง 500 มิลลิเมตร ตั้งแต่บ่ายวันจันทร์จนถึงสิ้นวันอังคาร
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลแถลงว่า ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ชายฝั่งเป็นจำนวนราว 30,000 คน และได้ระดมกำลังทหารกว่า 16,500 นาย และกองกำลังกึ่งทหาร 107,000 คน เข้าช่วยเหลืออพยพและเตรียมพร้อมสำหรับการค้นหาและกู้ภัย
สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า รัฐบาลยังมีแผนอพยพประชาชนเกือบ 600,000 คนในจังหวัดทัญฮว้า กว๋างจิ เว้ และดานัง ซึ่งมีบ้านเรือนกว่า 152,000 หลังคาเรือนตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนามรายงานว่า สนามบิน 2 แห่งในจังหวัดแท็งฮว้า และจังหวัดกว๋างบิ่ง ปิดให้บริการ สายการบินเวียดนามและสายการบินเวียดเจ็ทยกเลิกเที่ยวบินหลายสิบเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาอกจากพื้นที่ในวันอาทิตย์และวันจันทร์
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรกรรมเวียดนาม ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายจากภัยพิบัติธรรมชาติกว่า 100 คน และคาดว่า สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 21 ล้านดอลลาร์
คาจิกิก่อตัวขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนที่มีกำลังลมอ่อนเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนทวีความแรงในเวลาไม่ถึง 2 วัน และเทียบเท่าไต้ฝุ่นยางิเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 300 คน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้แก่เวียดนามถึง 3,300 ล้านดอลลาร์
ก่อนที่จะขึ้นฝั่งที่เวียดนาม ไต้ฝุ่นคาจิกิพัดผ่านชายฝั่งภาคใต้ของจีนบริเวณเกาะไหหลำ และพื้นที่บางส่วนของมณฑลกวางตุ้งในวันอาทิตย์ ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ และการขนส่งสาธารณะในเมืองซานย่า เมืองใหญ่ทางตอนใต้ของไหหลำต้องปิดให้บริการในวันอาทิตย์
ไหหลำ ที่เป็นมณฑลทางใต้สุดของจีนแห่งนี้ได้ลดระดับการแจ้งเตือนพายุไต้ฝุ่นและเหตุฉุกเฉินในเช้าวันจันทร์ แต่ได้เตือนถึงฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองตามเมืองต่างๆ ทางตอนใต้ของไหหลำ
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าประชาชนจำนวนมากในเมืองซานย่าต้องหลบภัยพายุในโรงจอดรถใต้ดินในเย็นวันอาทิตย์ รายงานระบุว่าต้นไม้ขนาดใหญ่บางต้นโค่นล้ม ทำให้กิ่งไม้หักเกลื่อนถนนในเช้าวันจันทร์
นอกจากนั้น ยังมีการคาดการณ์ว่า คาจิกิจะเคลื่อนตัวต่อจากเวียดนาม เข้าสู่ลาวและบริเวณตอนเหนือของไทย
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)