นักเดินทางขาเข้ากัมพูชาลดลงอย่างมากในช่วง 15 วันหลังสุด หลังภาวะไร้เสถียรภาพตามแนวชายแดน ท่ามกลางเหตุปะทะหนักหน่วงกับไทย ได้ก่อความกังวลแก่บรรดาผู้มาเยือน ตามรายงานของแคมโบเดียเนส สื่อมวลชนเขมรในวันศุกร์(8ส.ค.) พร้อมระบุสถานการณ์เช่นนี้กำลังส่งผลกระทบอย่างหนักกับบรรดาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว
แคมบเดียเนส รายงานว่าสถานการณ์ของนักเดินทางขาเข้ากัมพูชาอยู่ในภาวะทรงตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ก่อนหน้าเกิดการปะทะติดอาวุธ จำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากการที่เที่ยวบินต่างๆยังคงเดินหน้าให้บริการต่อไป แม้เกิดเหตุกระทบกระทั่งจนนำมาซึ่งการปิดชายแดนทางภาคพื้นระหว่างกัมพูชาและไทย
อย่างไรก็ตามสมาคมการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชาเน้นว่าภาคการท่องเที่ยวเริ่มเผชิญกับจำนวนผู้มาเยือนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตามหลังเหตุปะทะในวันที่ 24 กรฏาคม และรายได้ของบรรดาผู้ประกอบการนำเที่ยวทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ลดลงมากกว่า 70%
Chhay Sivlin ประธานสมาคมผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา แสดงความกังวลและห่วงใยเหล่าผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ถ้าความตึงเครียดยังคงลากยาวต่อไป
Sivlin กล่าวว่าพวกนักท่องเที่ยวต่างชาติมองกัมพูชาในฐานะเป็นประเทศที่ไม่ปลอดภัย ในขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวท้องถิ่นมุ่งเน้นไปที่การให้การสนับสนุนประชาชนผู้ไร้ถิ่นฐานและทหารมากกว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ปรารถนากิจกรรมสันทนาการ
"ความขัดแย้งชายแดนคือสาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินหน้ายกเลิกเที่ยวบินมากัมพูชา นับตั้งแต่เหตุปะทะเริ่มต้นขึ้น" Sivlinระบุ "พวกเขาเชื่อวาประเทศแห่งนี้อยู่ท่ามกลางสงคราม และกำลังยกเลิกจองตั๋วทั้งในช่วงโลว์ซีซั่นและไฮซีซั่น"
"แม้กระทั่งหลังมีข้อตกลงหยุดยิงแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากไม่รับรู้ว่าประเทศแห่งนี้เวลานี้ปลอดภัยแล้ว พวกเขายังคงคิดว่าประเทศยังอยู่ในสงคราม ถ้าข่าวลือนี้ยังคงแพร่สะพัดต่อไป แรงงานด้านการท่องเที่ยวก็อาจต้องเริ่มเป็นกังวลเกี่ยวกับอนาคตในหน้าที่การงานของพวกเขา ในขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่อาจแบกรับการขาดทุนได้เป็นเวลานาน" เธอกล่าว
Sivlin บอกว่าเธอรู้สึกเศร้าที่ได้เห็นพนักงานบริษัทและในธุรกิจต่างๆอยู่ในอาการเศร้าและเครียด วิถีชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่ความขัดแย้งลุกลาม แรงงานจำนวนมากวิตกกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขากลัวตกงานและเกรงว่าจะมีเงินเพียงพอที่จะดำรงชีวิตตามความจำเป็นหรือไม่
"พวกผู้ประกอบการที่ให้บริการในด้านต่างๆ อย่างเช่นการขนส่งทางอากาศ ทางบกและทางน้ำ เช่นเดียวกับโรงแรม เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร ร้านค้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง พวกเขาอาจจำเป็นต้องปลดคนงานถ้าสถานการณ์ยังยืดเยื้อ บริษัทต่างๆอาจพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเดินหน้าการลงทุน สืบเนื่องจากสถานการณ์เช่นนี้" เธอระบุ
ประธานสมาคมผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวต่อว่าพวกผู้ประกอบการคงต้องพึ่งพิงการพูดคุยหารือระหว่าง 2 ประเทศ ในความหวังบรรลุสันติภาพ การขาดแคลนนักท่องเที่ยวยังคงส่งผลกระทบในระยะสั้น ดังนั้นจึงหวังว่าสันติภาพจะกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมา "ผู้ประกอบการทุกรายและชาวกัมพูชาต้องการสันติภาพ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างชาติกลับมา"
(ที่มา:แคมโบเดียเนส)