xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.ติงรัฐบาลเชื่องช้า-เจรจาผิดทิศ ภาษีสหรัฐฯ 60% กระทบ ศก.- ผู้ใช้แรงงานหนักแน่ เตือนอย่าเอาความมั่นคงไปแลกสิทธิการค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พปชร.เตือนรัฐบาลเชื่องช้า เจรจาผิดทิศ ห่วงภาษีสหรัฐฯ 36% กระทบแรงงาน เศรษฐกิจไทย ชี้ ห้ามแลกผลประโยชน์ทางความมั่นคง กับสิทธิทางการค้า แนะรัฐเร่งความโปร่งใส เร่งเยียวยาอุตสาหกรรมส่งออกก่อนสายเกินไป

วันนี้ (15 ก.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พปชร. อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงจุดยืนพรรคถึงกรณีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งหนังสือกำหนดอัตราภาษีอากรสำหรับสินค้าไทยร้อยละ 36 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. นั้น นายธีระชัยมีความเป็นห่วงว่าทีมเจรจาจะไม่ทันการ

นายธีระชัย เกรงว่า กรณีเกิดความล้มเหลวจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทยอย่างหนัก เพราะในปี 2567 ไทยส่งออกสินค้าไปสหรัฐเป็นตลาดอันดับหนึ่งมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปสหรัฐฯ ราว 1.93 ล้านบาท หรือ 10.38% GDP กรณีถ้าหากโรงงานยอดส่งออกลดลง ก็จะต้องปลดคนงาน และจะลามไปถึงคนงานของซัปพลายเออร์ด้วย และไทยจะมีอุปสรรคในการแสวงหาตลาดใหม่ทดแทน เพราะไทยส่งออกไปสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนต่อมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทยที่สูงมากถึงเกือบหนึ่งในห้า และรูปแบบลักษณะสินค้าที่ผลิตเพื่อตลาดสหรัฐซึ่งมีราคาแพงนั้นก็ไม่สามารถจะหาตลาดทดแทนได้ง่ายในประเทศที่รายได้ต่ำกว่า ไม่ว่าในเอเซีย แอฟริกา หรืออเมริกาใต้

ทั้งนี้ กรณีสินค้าใดที่เหมือนหรือคล้ายกับสินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าสินค้าไทยโดนภาษีในอัตราที่สูงกว่าเพื่อนบ้าน ปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่ใช่แค่ยอดขายลดลงเพียงบางส่วน แต่อาจจะถึงขั้นเหลือศูนย์ คือจะขายไม่ได้เลย เพราะผู้ซื้อในสหรัฐฯจะไม่มีเหตุผลความจำเป็นใดที่จะต้องซื้อจากไทยที่ราคาแพงกว่า

นายธีระชัย ตำหนิทีมเจรจาที่ไม่เปิดเผยแนวข้อเสนอของไทยและข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ เพื่อให้นักวิชาการในประเทศช่วยกันวิจารณ์เสนอแนะ เพราะเท่าที่เห็นข้อมูลที่เผยแพร่ในสื่อนั้น ชัดเจนว่า ทีมเจรจาเสนอผิดทาง เช่น ไปเสนอว่าไทยจะตั้งเป้าลดยอดขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 5 ปี ลดลง 100% ภายใน 7-8 ปี ทั้งที่ ปธน.ทรัมป์ ต้องการให้มีผลสรุปที่จับต้องได้ทันที รวมทั้งที่ไปเสนอว่าไทยจะซื้อเครื่องบินโดยสารและซื้อก๊าซธรรมชาติ ทั้งที่สหรัฐฯย่อมรู้ดีว่ารัฐบาลไทยแตกต่างจากกรณีประเทศจีน ที่ไม่มีอำนาจที่จะบังคับบริษัทเอกชนได้จริง ส่วนการลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ก็เห็นว่า ล่าสุด ทีมเจรจาก็ยังเสนอลดเหลือศูนย์เฉพาะสินค้าบางอย่าง ยังมิใช่สำหรับสินค้าทั้งหมด

นายธีระชัย แนะนำให้ทีมเจรจาอ่านข้อความของ ปธน.ทรัมป์ ใน Truth Social ซึ่งกล่าวถึงโมเดลของเวียดนามที่ลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ เหลือศูนย์สำหรับสินค้าทั้งหมดอย่างชื่นชมว่า “เวียดนามจะทำในสิ่งที่ไม่เคยให้แก่ประเทศใดมาก่อนคือจะเปิดตลาดเต็มที่ให้แก่สหรัฐฯ กล่าวคือ เวียดนามจะ “เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่า สหรัฐฯจะสามารถส่งสินค้าไปขายโดยเสียภาษีศูนย์เปอร์เซนต์“ จะเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเน้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่คนอเมริกัน

นายธีระชัย เสนอแนะการเยียวยาผู้ที่ถูกผลกระทบนั้น เสนอแนะว่าอาจจะพิจารณาเก็บภาษีการส่งออกไปสหรัฐจากผู้ส่งออกรายใหญ่ในอัตราต่ำ เช่น ร้อยละ 2-3 ซึ่งจะเก็บรายได้ปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท สามารถนำไปใช้เยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรและพ่อค้ารายย่อยที่ถูกกระทบจากโมเดลเวียดนามได้ พร้อมเตือนอีก 3 ประการคือ

หนึ่ง ทีมเจรจาจะต้องยืนกรานไม่ยินยอมแลกผลประโยชน์ทางการค้ากับข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงอันจะกระทบต่อภาพพจน์ความเป็นกลางระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างเด็ดขาด และมั่นใจว่า ความใกล้ชิดที่มีมาช้านานระหว่างไทยกับสหรัฐฯทั้งในด้านกลาโหม และด้านการต่างประเทศจะอธิบายจุดยืนนี้ให้แก่สหรัฐได้ จึงควรเพิ่มข้าราชการทั้งสองด้านเข้าไปในทีม

สอง ต้องหาทางจบให้เร็วที่สุดเพื่อมิให้การวางแผนลงทุนของเอกชนในการสร้างหรือขยายโรงงานสะดุดลง

สาม รัฐบาลมีหน้าที่ทำการเจรจาให้โปร่งใสเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าเน้นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง ไม่มีการกักเรื่องเพื่อปกป้องคุ้มครองธุรกิจผูกขาดใดๆ และประกาศแผนและเป้าหมายการช่วยเหลือเยียวยาให้ชัดเจน


กำลังโหลดความคิดเห็น