xs
xsm
sm
md
lg

โหดจริง! อิสราเอลยังโจมตีกาซาต่อเป็นวันที่สอง หลังถล่มแหลกคนตายกว่า 400 ‘เนทันยาฮู’ ลั่น ‘แค่เริ่มต้น’ ขณะ ‘สหรัฐฯ’ ให้ท้ายยิวขั้นสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้ร่วมไว้อาลัยทำพิธีละหมาดให้แก่ร่างไร้ชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายราย ที่ถูกสังหารจากการถล่มโจมตีฉนวนกาซาของกองทัพอิสราเอล ขณะบรรดาญาติมิตรนำศพของพวกเขาออกมาเพื่อเตรียมนำไปฝัง ณ โรงพยาบาลอัล-อักซอ ในเมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ เมื่อวันพุธ (19 มี.ค.)
อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซาอีกในวันพุธ (19 มี.ค.) สังหารชาวปาเลสไตน์ไปอย่างน้อย 10 คน แถมกองทัพรัฐยิวยังออกคำสั่งใหม่ๆ ให้ชาวบ้านชาวเมืองอพยพหลบหนีออกไปจากพื้นที่สู้รบ ทั้งนี้ภายหลังถล่มเดือดทั่วดินแดนแห่งนี้อย่างนองเลือดมาแล้วเมื่อวันอังคาร (18) จนทำให้มีคนตายไปกว่า 400 คน โดย “เนทันยาฮู” ประกาศลั่นว่า “แค่เริ่มต้น” และจะกดดันต่อไปจนกว่าทำลายฮามาสสิ้นซากพร้อมพาตัวประกันกลับบ้านได้ทั้งหมด ขณะที่อเมริกาก็หนุนหลังขั้นสุด โทษฮามาสเป็นฝ่ายเลือกสงครามเอง

กองทัพอิสราเอลอ้างในวันพุธว่า ได้โจมตีสถานที่ของกลุ่มฮามาสแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของกาซา หลังตรวจจับได้ว่ากำลังมีการเตรียมการเพื่อยิงอาวุธเข้าไปในดินแดนอิสราเอล

ในวันเดียวกัน กองทัพรัฐยิวยังโปรยใบปลิวในหลายพื้นที่ของเมืองเบอิต ฮานูน และเมืองข่านยูนิส ซึ่งอยู่ทางเหนือและทางใต้ของกาซาตามลำดับ สั่งให้ชาวบ้านชาวเมืองอพยพออกจากที่พำนัก โดยขู่ว่าพวกเขากำลังอยู่ใน “พื้นที่สู้รบซึ่งมีอันตราย”

“การอยู่ในที่พำนักหรือในเต็นท์ที่อยู่กันเวลานี้ ทำให้ชีวิตของพวกคุณและของสมาชิกครอบครัวของพวกคุณตกอยู่ในอันตราย อพยพออกไปทันที” เป็นข้อความในใบปลิวฉบับหนึ่งซึ่งถูกโปรยลงมาในเมืองเบอิต ฮานูน

กระทรวงสาธารณสุขของกาซา ซึ่งดำเนินงานโดยกลุ่มฮามาส แถลงว่า มีผู้ถูกสังหารไป 1 คน และบาดเจ็บอีก 4 คนจากการที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่ที่ตั้งหน่วยงานสหประชาชาติแห่งหนึ่งในเมืองเดอีร์ เอล บาลาห์ ทางตอนกลางของกาซาเมื่อวันพุธ แต่ทางกองทัพอิสราเอลปฏิเสธข่าวนี้

ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างดุเดือดรุนแรงทั่วฉนวนกาซา สังหารผู้คนไปกว่า 400 คน บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน ทั้งนี้ตามรายงานของพวกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชาวปาเลสไตน์ ถือเป็น 1 ในวันที่มีการสูญเสียชีวิตสูงที่สุดนับตั้งแต่การสู้รบขัดแย้งคราวนี้เริ่มต้นขึ้นมา และเป็นการปิดฉากระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่เหตุการณ์ค่อนข้างเงียบสงบนับจากที่อิสราเอลกับฮามาสทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกันได้ในเดือนมกราคม

ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้ละเมิดการตกลงหยุดยิงครั้งนี้ ซึ่งทำให้ประชากร 2.3 ล้านคนของกาซามีเวลาพักหายใจบ้าง หลังจากเผชิญสงครามมา 17 เดือน โดยที่รัฐยิวถล่มโจมตีทั่วทั้งกาซาจนเหลือแต่กองซากปรักหักพัง อีกทั้งบังคับให้ผู้คนเกือบทั้งหมดในกาซาต้องกลายเป็นคนพลัดบ้านเรือนต้องอพยพกันครั้งแล้วครั้งเล่า

ทางด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงในวันอังคารว่า สั่งการให้โจมตีกาซาหลังจากฮามาสปฏิเสธข้อเสนอขยายข้อตกลงหยุดยิง

ผู้นำอิสราเอลยังเรียกร้องให้ชาวกาซาอพยพออกจากพื้นที่ที่มีการโจมตีไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า และโทษว่า การล้มตายของพลเรือนเป็นผลจากฮามาส พร้อมขู่ว่า นับจากนี้อิสราเอลจะใช้กำลังจัดการกับฮามาสรุนแรงขึ้น และการเจรจาจะเกิดขึ้นท่ามกลางการสู้รบ ก่อนทิ้งท้ายว่า ฮามาสรู้ฤทธิ์อาวุธของอิสราเอลแล้วจากการโจมตีในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น

เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลคือบ้านเรือนและค่ายผู้หลบภัยสงครามจากเหนือจดใต้ของฉนวนกาซา ผู้เห็นเหตุการณ์ยังเผยว่า เครื่องบินอิสราเอลยิงขีปนาวุธใส่กาซาซิตี้เมื่อคืนวันอังคาร และรถถังยิวยิงข้ามพรมแดนเข้าสู่กาซา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์เผยว่า มีผู้เสียชีวิต 408 คน

อียิปต์และกาตาร์ สองชาติที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในข้อตกลงหยุดยิงร่วมกับอเมริกา ประณามการโจมตีของอิสราเอล ขณะที่สหภาพยุโรป ก็แถลงประณามการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

ทอม เฟลตเชอร์ ผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินของสหประชาชาติ วิจารณ์ว่า ความคืบหน้าเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างการหยุดยิงถูกทำลายหมดสิ้น

นอกจากนั้น อิสราเอลยังระงับการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซามานานกว่า 2 สัปดาห์ซึ่งทำให้วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้ายกว่าเดิม

กระนั้น โดโรธี เชีย รักษาการเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำยูเอ็น กลับแสดงการสนับสนุนอิสราเอลเต็มที่และโทษว่า การที่สงครามปะทุขึ้นอีกครั้งเป็นความผิดของฮามาสแต่เพียงผู้เดียว

เช่นเดียวกับไบรอัน ฮิวจ์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวที่สำทับว่า ฮามาสควรปล่อยตัวประกันเพื่อขยายข้อตกลงหยุดยิง แต่กลับเลือกการปฏิเสธและสงคราม

ทว่า ตัวประกันที่ได้รับการช่วยเหลือและครอบครัวตัวประกันที่ยังถูกคุมขังในกาซาต่างโจมตีว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทำให้ตัวประกันมีอันตราย รวมถึงคุกคามข้อตกลงเพื่อปล่อยตัวประกัน

อับเดล-ลาตีฟ อัล-กานูอา โฆษกของฮามาสเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ฮามาสยังคงติดต่อกับคณะผู้ไกล่เกลี่ยและต้องการดำเนินการตามข้อตกลงดั้งเดิมให้เสร็จสมบูรณ์

อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายอิสราเอลกลับกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่แลกกับการหยุดยิงจนสิ้นสุดเทศกาลรอมฎอนของอิสลามและเทศกาลปัสคาของยิวในเดือนเมษายน

นอกจากโจมตีกาซาแล้ว ช่วงหลายวันมานี้อิสราเอลยังถล่มเขตยึดครองเวสต์แบงก์ พื้นที่ทางใต้ของเลบานอนและซีเรีย

ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร กบฏฮูตีในเยเมนที่เป็นพันธมิตรกับฮามาสและอิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศของอิสราเอล ซึ่งเป็นการโจมตีอิสราเอลจากเยเมนครั้งแรกนับจากข้อตกลงหยุดยิงมีผลวันที่ 19 ม.ค. ทว่า อิสราเอลเผยว่า สามารถสกัดขีปนาวุธที่ยิงมาจากเยเมนได้ก่อนที่จะข้ามแดนเข้าสู่อิสราเอล

วันต่อมา (19 มี.ค.) กบฏฮูตีอ้างว่า ยิงขีปนาวุธร่อนและส่งโดรนโจมตีกองเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส แฮร์รี เอส. ทรูแมน ของอเมริกา ซึ่งถือเป็นการโจมตีกองเรือรบสหรัฐฯ ในทะเลแดงครั้งที่ 4 ในรอบ 72 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนั้น สถานี อัล มาสิราห์ ของกบฏฮูตีรายงานว่า อเมริกาโจมตีทางอากาศกว่า 10 ระลอกทั่วเยเมนเมื่อคืนวันอังคาร ซึ่งรวมถึงในจังหวัดซาดาที่เป็นที่กบดานของเหล่าผู้นำฮูตี ท่าเรือโฮไดดาห์ และเขตอัล-ซาฟราในซาดาที่เป็นที่จัดเก็บอาวุธและสถานที่ฝึกของฮูตี

ก่อนหน้านั้น กองบัญชาการด้านกลางของอเมริกา (US CENTCOM) แถลงว่า เริ่มต้นโจมตีฮูตีอย่างหนักหน่วงเมื่อวันเสาร์ (15) ทำให้กบฏกลุ่มนี้พยายามเอาคืนแต่ส่วนใหญ่พลาดเป้า และสำทับว่า จะโจมตีต่อไปจนกว่าฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านจะหยุดโจมตีในทะเลแดงและอ่าวเอเดน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้ขนส่งสินค้า 12% ของทั่วโลก

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น