จีนขอญี่ปุ่นมองคดีเด็กถูกแทงอย่างสงบ อย่าปั่นกระแสเป็นประเด็นทางการเมือง

เอเอฟพี - จีนคาดหวังให้ทางญี่ปุ่นจัดการกับกรณีนักเรียนถูกแทงเสียชีวิตในเซินเจิ้นอย่างสงบ และมีเหตุผล หลีกเลี่ยงการทำให้เป็นประเด็นทางการเมืองหรือทำให้ปัญหาลุกลาม

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น เรียกร้องคำอธิบายหลังเกิดเหตุการณ์เด็กชายวัย 10 ปี ถูกแทงเสียชีวิตระหว่างเดินไปโรงเรียนญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองเซินเจิ้นของจีน และต้องการให้ปักกิ่งรับประกันความปลอดภัยของพลเมืองญี่ปุ่น ทั้งนี้ กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า เด็กชายคนดังกล่าวเป็นลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น

ในวันอังคาร (24 ก.ย.) ระหว่างพบกันที่นิวยอร์ก หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน บอกกับโยโกะ คามิกาวะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นว่า จีนจะสอบสวนและจัดการคดีดังกล่าวตามกฎหมาย และขอให้ญี่ปุ่นมองเรื่องนี้อย่างสงบและมีเหตุผล หลีกเลี่ยงการทำให้เป็นประเด็นทางการเมืองหรือทำให้ปัญหาลุกลาม พร้อมยืนยันว่า ปักกิ่งจะปกป้องความปลอดภัยของพลเมืองต่างชาติทุกคนในจีนเหมือนที่เคยเป็นมาเสมอ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า การโจมตีดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ แม้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในวันที่ 18 ก.ย. ซึ่งเป็นวันครบรอบ “อุบัติการณ์มุกเดน” หรือ “อุบัติการณ์แมนจูเรีย” ในปี 1931 ที่จีนระบุว่า เป็นวันแห่งความอัปยศอดสูแห่งชาติก็ตาม เนื่องจากในวันดังกล่าวเกิดเหตุระเบิดทางรถไฟที่ทหารญี่ปุ่นใช้เป็นข้ออ้างในการเข้ายึดเมืองมุกเดน หรือเสิ่นหยางในปัจจุบัน และรุกรานแมนจูเรีย

ทางด้านกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงว่า คามิกาวะเรียกร้องอย่างชัดเจนให้จีนอธิบายข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแรงจูงใจ และลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด

คามิกาวะยังเรียกร้องให้จีนดำเนินการกับโพสต์ประสงค์ร้ายต่อต้านญี่ปุ่นบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งรวมถึงโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนญี่ปุ่นซึ่งไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด

กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเสริมว่า คามิกาวะขอให้ทั้งสองประเทศในฐานะเพื่อนบ้านดำเนินการร่วมกันเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ด้วยการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยนระหว่างกันอย่างตรงไปตรงมา

ก่อนออกเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คามิกาวะเผยว่า ญี่ปุ่นจะจัดสรรเงิน 300,000 ดอลลาร์เพื่อปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยโรงเรียนญี่ปุ่นในจีน

สัปดาห์ที่แล้วปักกิ่งแสดงความเศร้าโศกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ “อาจเกิดขึ้นได้ในทุกประเทศ” อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ตำหนิว่า มีบางคนในญี่ปุ่นพยายามเชื่อมโยงการสังหารนักเรียนกับกระแสต่อต้านญี่ปุ่นบนเครือข่ายโซเชียลมีเดียจีน และโหมกระพือ “ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย” ซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเลวร้ายลง ขณะที่จีนอ้างสิทธิในดินแดนที่มีข้อพิพาทด้านอธิปไตยในภูมิภาคก้าวร้าวขึ้น และญี่ปุ่นกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงแน่นแฟ้นขึ้นกับอเมริกาและพันธมิตร

สัปดาห์ที่แล้วปักกิ่งประกาศว่า จะกลับมานำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากห้ามนำเข้าในปี 2023 เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ