เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมอาวุธของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุวานนี้ (23 ก.ย.) ว่ามอสโกจะยังไม่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ตราบใดที่สหรัฐฯ ก็งดเว้นเช่นกัน ซึ่งถือเป็นการชี้แจงจุดยืนหลังมีกระแสความกังวลว่าทำเนียบเครมลินอาจจะกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง
ในขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรปกำลังชั่งใจว่าจะอนุญาตให้ยูเครนนำอาวุธพิสัยไกลของตะวันตกไปใช้โจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียหรือไม่ ฝ่ายรัสเซียเองก็มีทีท่าว่าอาจจะรื้อฟื้นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ หลังจากที่งดเว้นไปตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย
สัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ Rossiyskaya Gazeta ของรัสเซียได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ อันเดร ซินิตซีน (Andrei Sinitsyn) หัวหน้าศูนย์ทดสอบนิวเคลียร์ Novaya Zemlya ของแดนหมีขาว โดยเขาระบุว่าทางศูนย์ “พร้อม” ที่จะเริ่มทดสอบนิวเคลียร์เต็มรูปแบบได้ทุกเมื่อ
ปูติน เคยออกมาพูดว่า รัสเซียจะรื้อฟื้นการทดสอบนิวเคลียร์หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าสหรัฐฯ จะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนหรือเปล่า พร้อมกับย้ำว่ารัสเซียไม่จำเป็นต้องพึ่งอาวุธนิวเคลียร์เพื่อที่จะชนะสงครามในยูเครน
“ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” เซียร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศรัสเซียซึ่งกำกับดูแลนโยบายด้านการควบคุมอาวุธ ให้สัมภาษณ์กับสื่อแดนหมีขาวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นทดสอบนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้หากชาติตะวันตกปล่อยให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีดินแดนรัสเซีย
“อย่างที่ท่านประธานาธิบดีได้ให้นิยามและตั้งกฎเกณฑ์ไว้ เราสามารถดำเนินการทดสอบเช่นนั้นได้ แต่จะยังไม่ทำ หากสหรัฐฯ งดเว้นเช่นกัน”
รยาบคอฟ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ Novaya Zemlya ให้อยู่ภาวะ “พร้อมใช้งาน” เกิดขึ้นเพราะว่าสหรัฐฯ เองก็ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านนิวเคลียร์ของพวกเขาเช่นกัน
CNN รายงานเมื่อปี 2023 ว่า ทั้งรัสเซีย สหรัฐฯ และจีน ต่างมีการขยายสิ่งปลูกสร้างและขุดอุโมงค์ภายในสถานที่ทดสอบนิวเคลียร์ของตนเองตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
รัสเซียในยุคหลังสหภาพโซเวียตไม่เคยทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มาก่อน โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 1990 ก่อนที่สหภาพโซเวียตจะล่มสลาย 1 ปี ส่วนสหรัฐฯ ทดสอบครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1992
ปัจจุบันมีเพียง “เกาหลีเหนือ” ประเทศเดียวที่เคยทดสอบจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงศตวรรษนี้
ที่มา : รอยเตอร์
