ฤทธิ์เดชของพายุยางิในพม่า ยังคงสร้างความทุกข์ยากเดือดร้อนให้ประชาชนเพิ่มขึ้นอีก สืบเนื่องจากน้ำท่วมและดินถล่ม โดยตามตัวเลขล่าสุดของทางการระบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 74 คน และสูญหาย 89 คน สูงขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 1 วันก่อนหน้านั้น ขณะเดียวกัน ความยากลำบากในการรวบรวมข้อมูลก็ก่อให้เกิดความกังวลว่า จำนวนผู้ล้มตายอาจสูงกว่าที่รายงานกันออกมา
ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการล่าสุดที่รัฐบาลทหารพม่าประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐเมื่อวันเสาร์ (14 ก.ย.) นี้ สูงขึ้นกว่าเท่าตัวจากจำนวน 33 คนที่รายงานกันในวันศุกร์ (13)
ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นยางิที่พัดผ่านฟิลิปปินส์ และเกาะไหหลำของจีน ได้ขึ้นฝั่งถล่มภาคเหนือของเวียดนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และถึงแม้อ่อนกำลังลงมาก แต่ยังคงสร้างความเสียหายแก่หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตามรายทางการเคลื่อนตัวของมัน ทั้งลาว ไทย และพม่า โดยรวมแล้ว “ยางิ” ได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 350 คน อีกทั้งสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วง
ในเวียดนาม เมื่อวันอาทิตย์ (15) เจ้าหน้าที่ทางการปรับตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตให้สูงขึ้นเป็น 281 คน และสูญหาย 67 คน
สำหรับที่พม่า การประกาศยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดมีขึ้นหลังจากสื่อของรัฐรายงานว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธานสภาทหารที่ปกครองพม่า แถลงว่า พม่ากำลังขอความช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์จากนานาชาติ
จากรายงานของสื่อท้องถิ่น ประชาชนในพม่าเกือบ 240,000 คนต้องทิ้งบ้านเรือน เพิ่มเติมจากที่มีผู้ทิ้งบ้านเรือน 3.4 ล้านคนนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ทั้งนี้ จากข้อมูลของหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ
พื้นที่ราบลุ่มตอนกลางของพม่า เช่น มัณฑะเลย์และพะโค ตลอดจนถึงรัฐชานในภาคเหนือและกรุงเนปีดอ จมน้ำนับจากวันพุธที่ผ่านมา (11 )
หนังสือพิมพ์เมียนมา อลินน์ ของทางการพม่ารายงานว่า มิน อ่อง หล่าย และนายทหารคนอื่นๆ ได้ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมและตรวจสอบปฏิบัติการกู้ภัย บรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูในกรุงเนปีดอ เมื่อวันศุกร์ และมิน อ่อง หล่ายสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดต่อประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงประเทศที่ได้รับผลกระทบจากพายุยางิเช่นเดียวกัน เพื่อขอรับความช่วยเหลือด้านการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ โดยย้ำว่า จำเป็นต้องจัดการการกู้ภัย การบรรเทาทุกข์ และการฟื้นฟูโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ทราบระดับความเสียหายที่แน่นอน แต่มีความกังวลกันว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นสูงมาก และสื่อท้องถิ่นหลายสำนักรายงานว่า มีผู้สูญหายกว่า 100 คน
กรุงเนปีดอ เป็นหนึ่งในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงที่สุด เวลาเดียวกัน อีเลฟเวน มีเดีย ของพม่ารายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ปริมาณฝนที่ตกลงมาสูงสุดทำสถิติได้ทำลายเจดีย์หลายแห่งในพุกาม ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่และเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก โดยฝนที่ตกลงมาหนักที่สุดในรอบ 60 ปีครั้งนี้ทำให้กำแพงวัดเก่าแก่ที่มีอายุอานามหลายศตวรรษถล่มหลายแห่ง
(ที่มา : เอพี/เอเอฟพี)