เอเอฟพี - อาสาสมัครต่างเร่งเดินทางไปยังพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมในพม่าวันนี้ (15) เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นยางิเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า และในพื้นที่ห่างไกลรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายเพิ่ม
จากข้อมูลของทางการระบุว่า เหตุอุทกภัยและดินถล่มได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 350 คน ในพม่า เวียดนาม ลาว และไทย หลังจากพายุไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ชายคนหนึ่งเปิดเผยกับเอเอฟพีถึงวิธีที่เขาพยายามที่จะช่วยผู้คนด้วยเชือก ขณะที่น้ำท่วมสูงถึง 4 เมตรไหลบ่าเข้ามาในเมืองกะลอ รัฐชาน เมื่อวันที่ 10 ก.ย.
“กระแสน้ำแรงมาก ถึงขนาดที่อาคารบางหลังพังเสียหาย” ชายคนเดิม กล่าว โดยอธิบายว่าชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ถูกกระแสน้ำพัดมาตามถนน
“ผมเห็นหลายครอบครัวติดอยู่บนหลังคาบ้านของพวกเขา ผมได้ยินว่ามีศพอยู่ที่โรงพยาบาล 40 ศพ” ชายที่ทำงานให้องค์กรเอ็นจีโอท้องถิ่น กล่าว
นักธุรกิจหญิงรายหนึ่งในนครย่างกุ้งที่ดำเนินกิจการในเมืองกะลอ กล่าวกับเอเอฟพีว่าพนักงานของเธอที่นั่นรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 60 คนในเมือง
ทั้งนี้ รัฐบาลทหารไม่ได้ระบุว่าในผู้เสียชีวิตทั้งหมด 74 คน เป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในเมืองกะลอจำนวนเท่าใด
ที่ทะเลสาบอินเล แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ห่างไปราว 30 กิโลเมตร ระดับน้ำในวันเสาร์ (14) เพิ่มสูงขึ้นถึงชั้น 2 ของบ้านที่สร้างบนเสาสูงเหนือน้ำ ตามคำบอกเล่าของชายคนหนึ่งที่กำลังพยายามอพยพครอบครัวของเขา
“ในบางพื้นที่ใกล้ทะเลสาบ หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ คนเฒ่าคนแก่บอกว่านี่เป็นน้ำท่วมสูงที่สุดที่พวกเขาเคยเห็น” ชายคนเดิมกล่าวกับเอเอฟพีวันนี้ (15)
ภาพถ่ายของเอเอฟพีเผยให้เห็นน้ำท่วมบ้านไม้ที่อยู่บริเวณทะเลสาบ
รถยนต์และรถบรรทุกกำลังนำอาสาสมัครจากนครย่างกุ้งขึ้นไปทางเหนือ เพื่อไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในเมืองตองอู ภาคพะโค และรอบๆ กรุงเนปีดอ ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีรายงาน
รถเหล่านั้นบรรทุกน้ำขวด มัดเสื้อผ้า และอาหารแห้ง ขณะที่บางคันผูกเรือไว้บนหลังคารถ
“เราต้องการช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือในขณะนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราเดินทางไปพื้นที่น้ำท่วม เรานำอาหาร น้ำดื่ม และเสื้อผ้าไปด้วย” หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองตองอู กล่าว
น้ำท่วมครั้งนี้ได้เพิ่มเติมความทุกข์ยากให้ชาวพม่าที่ทนทุกข์จากการพลัดถิ่นเนื่องจากสงครามที่ดำเนินมานานกว่า 3 ปี นับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในปี 2564
ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ทางการรายงานไว้เมื่อคืนวันศุกร์ (13) อยู่ที่ 74 คน และสูญหาย 89 คน และมีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 235,000 คน แต่เนื่องจากสะพานและถนนต่างๆ ได้รับความเสียหาย รวมถึงโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตล่มทำให้ข้อมูลต่างๆ มีจำกัด
แม่น้ำสิตตอง และพะโคที่ไหลผ่านตอนกลางและตอนใต้ของพม่า แม่น้ำทั้งสองสายยังคงอยู่เหนือระดับอันตรายในวันอาทิตย์ แม้คาดว่าระดับน้ำจะลดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทางฝั่งตะวันออก แม่น้ำสาละวิน อยู่เหนือระดับอันตรายมากกว่า 2 เมตร ในเมืองพะอาน สื่อของรัฐรายงาน
หน่วยงานด้านสภาพอากาศของไทยเตือนว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ตามแนวแม่น้ำโขง ขณะที่ทางการเวียดนามรายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในวันอาทิตย์ที่ 281 คน และสูญหาย 67 คน.