เอเอฟพี - ผู้คนหลายหมื่นชีวิตต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองในวันอังคาร (10) หลังเกิดน้ำท่วมหนักทางตอนเหนือของเวียดนามที่เป็นผลพวงของไต้ฝุ่นยางิ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 127 คน
ไต้ฝุ่นยางิซัดถล่มเวียดนามเมื่อวันเสาร์ (7) ด้วยความเร็วลมกว่า 149 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายสิบปี ตามการระบุของคนในพื้นที่
ทางการท้องถิ่นเปิดเผยว่า ประชาชนมากกว่า 59,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองใน จ.เอียนบ่าย หลังจากน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนเกือบ 18,000 หลัง
สื่อของรัฐรายงานอ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในท้องถิ่นว่า น้ำท่วมในกรุงฮานอยเพิ่มสูงถึงระดับที่ไม่เคยพบมาก่อนนับตั้งแต่ปี 2551 และนักพยากรณ์อากาศเตือนว่าคาดว่าจะมีน้ำท่วมเพิ่มขึ้นในย่านใจกลางเมือง
ฟาน ถิ เตวียต ที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำแดงที่ไหลเชี่ยว ที่ไหลผ่านเมืองหลวงกล่าวว่าเธอไม่เคยเจอกับน้ำท่วมสูงขนาดนี้มาก่อน
“ฉันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เหลืออะไรเลย” หญิงวัย 50 ปี กล่าวกับเอเอฟพี พร้อมกับอุ้มสุนัข 2 ตัวขณะนั่งเรืออพยพพร้อมกับชาวบ้านคนอื่นๆ ที่บ้านถูกน้ำท่วม
“ฉันต้องไปอยู่พื้นที่สูงเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ เราขนข้าวของไปด้วยไม่ได้ ทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำ” ฟาน ถิ เตวียต กล่าว
พายุไต้ฝุ่นในภูมิภาคนี้กำลังก่อตัวใกล้ชายฝั่งมากขึ้น ทวีความรุนแรงรวดเร็วขึ้น และอยู่บนแผ่นดินนานขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากศ ตามการศึกษาที่เผยแพร่ในเดือน ก.ค.
พายุไต้ฝุ่นยางิทำให้สะพานพังถล่ม หลังคาอาคารฉีกขาด โรงงานได้รับความเสียหาย และทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มเป็นวงกว้าง
สื่อของรัฐรายงานยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 127 คนในวันอังคาร (10) โดยมีผู้สูญหายอย่างน้อย 54 คน จากผลพวงของพายุ
เจ้าหน้าที่กรุงฮานอยระบุว่าต้นไม้มากกว่า 25,000 ต้นในเมืองหักโค่นจากพายุ ลำต้นขนาดใหญ่ของต้นไม้ล้มขวางถนนสายหลักในใจกลางเมือง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
นักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าภาคเหนือของประเทศ ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นและเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกรวมถึงซัมซุง ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยน้ำท่วมในเมืองเอียนบ่ายอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เจ้าหน้าที่ได้ออกคำเตือนน้ำท่วมและดินถล่มใน 401 ตำบลใน 14 จังหวัดภาคเหนือ
บ้านชั้นเดียวในบางพื้นที่ของเมืองท้ายเหวียนและเมืองเอียนบ่ายจมอยู่ใต้น้ำเกือบมิดในช่วงเช้าวันอังคาร ทำให้ประชาชนที่ประสบภัยต้องรอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้สูงอายุและเด็กในพื้นที่อยู่อาศัย บรรดาญาติของผู้ที่ติดอยู่ในน้ำท่วมได้โพสต์ขอความช่วยเหลือและสิ่งของจำเป็นบนสื่อสังคมออนไลน์
พืชผลทางการเกษตรเช่น กล้วย ฝรั่ง และข้าวโพด ล้วนจมอยู่ใต้น้ำ
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทระบุว่านอกจากผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายแล้ว ยังมีคนได้รับบาดเจ็บจากน้ำท่วมและดินถล่มอย่างน้อย 752 คน
ในวันอังคาร (10) เจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามรถขนาดใหญ่ข้ามสะพานเหนือแม่น้ำแดงในกรุงฮานอย และระงับเส้นทางรถไฟข้ามสะพานลองเบียนเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น
การดำเนินมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสะพานที่อยู่เหนือแม่น้ำใน จ.ฝูเถาะ พังถล่มอย่างกะทันหันเมื่อวันจันทร์ (9) และจากภาพถ่ายเผยให้เห็นสะพานที่มีความยาว 375 เมตร เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามีผู้รอดชีวิตขณะกำลังข้ามสะพาน 5 คน และสูญหายอีก 8 คน
พายุลูกนี้ยังทำให้ไฟฟ้าดับ และทำให้โรงงานต่างๆ ในภาคเหนือของประเทศที่เป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกหลายแห่งต้องหยุดชะงักครั้งใหญ่
ซูซูมุ โยชิดะ จากหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น กล่าวกับเอเอฟพีว่าบริษัทญี่ปุ่นมากกว่า 80 แห่ง ได้รับความเสียหายบางประการจากพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ รวมถึงอาคารโรงงาน เครื่องจักร วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ และว่าบางบริษัทได้ระงับการผลิตหรือระงับบางส่วน และจะยังไม่กลับมาดำเนินการจนกว่าจะถึงสิ้นสัปดาห์
สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่าพืชผลทางการเกษตรเกือบ 210,000 เฮกตาร์ถูกทำลายเสียหายในอุทกภัยครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังมีวัวควายและสัตว์ปีกอย่างน้อย 734,000 ตัว ตายจากน้ำท่วมเช่นกัน.