เอเจนซีส์ - ผู้นำข่าวกรองลับโลกทั้ง CIA วิลเลียม เบิร์นส และ MI6 เซอร์ ริชาร์ด มัวร์ เตือนภัยคุกคามโลกอย่างไม่เคยเห็นตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ระหว่างเครื่องบินล่องหนอเมริกัน F-35 ฝึกบินลงจอดบนถนนไฮเวย์ในฟินแลนด์ติดรัสเซีย ส่วนเครื่องบินรบนาโตของเยอรมนีกำลังซ้อมขนระเบิดนิวเคลียร์อเมริกัน B61 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
บีบีซีของอังกฤษรายงานวันนี้ (7 ก.ย.) ว่า ในการเขียนลงบทบรรณาธิการร่วมกันในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ ผู้นำข่าวกรองลับโลกทั้ง CIA วิลเลียม เบิร์นส (William Burns) และ MI6 เซอร์ ริชาร์ด มัวร์ (Sir Richard Moore) ยืนยันว่า สหรัฐฯ และอังกฤษจับมือร่วมกันต่อต้านรัสเซียที่มีความมุ่งมั่นและความก้าวร้าวของรัสเซียในยูเครน
ถือเป็นการเขียนบทความร่วมกันครั้งแรกของ 2 หน่วยงานสายลับที่สำคัญที่สุดของโลก สื่ออังกฤษชี้
เบิร์นส์ และมัวร์เปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองลับรู้ล่วงหน้าถึงสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในยูเครนและสามารถเตือนประชาคมโลกได้ทัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเผยความลับเพื่อช่วยยูเครนไว้
บทความกล่าวไปถึงปฏิบัติการลับบ่อนทำลายเกิดระบาดไปทั่วยุโรปจากฝีมือหน่วยข่าวกรองรัสเซียและเทคนิกการแพร่เฟกนิวส์และโกหกเพื่อทำให้เกิดความแตกแยก การผลักดันลดการยกระดับในสงครามอิสราเอล-กาซา และการต่อต้านก่อการร้าย IS ที่กลับมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ หัวหน้า CIA และหัวหน้า MI6 ยังปรากฏตัวร่วมกันในงาน FT Weekend Festival ที่เคนวูดเฮาส์ (Kenwood House) วันเสาร์ (7) ในกรุงลอนดอน
เบิร์นส์เปิดเผยกับผู้ฟังว่า CIA ยังไม่เห็นหลักฐานว่า การกุมอำนาจของปูตินมีความอ่อนแอ ส่วนมัวร์ ชี้ว่า “อย่าได้สับสนระหว่างกระชับอำนาจและการกุมอำนาจอย่างมั่นคง”
CIA และ MI6 มองเห็นถึงการก้าวเข้ามาของจีนในฐานะคู่แข่งด้านข่าวกรองและผู้เล่นทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์สำคัญของโลกของศตวรรษ โดยชี้ว่าพวกเขาได้ปรับปรุงการทำงานเพื่อสะท้อนต่อภารกิจความจำเป็นนั้น อ้างอิงจากข้อเขียนในไฟแนนเชียลไทม์ส
และองค์กรทั้งสองโดยเฉพาะ CIA ที่ถือเป็นตัวกลางในความพยายามยุติสงครามกาซาและช่วยตัวประกันออกมาจากมือฮามาสได้เปิดเผยในงานว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าอาจจะมีรายละเอียดของข้อเสนอใหม่
ระหว่างที่เบิร์นส์ และมัวร์กำลังเตือนโลกถึงภัยคุกคามอยู่นั้น พบว่า เครื่องบินรบสเตลท์อเมริกันได้ร่อนลงจอดบนถนนไฮเวย์ใกล้รัสเซียมากที่สุดเป็นครั้งแรก และเครื่องบินรบนาโตเยอรมนีกำลังเริ่มซ้อมควบคุมมิสไซล์นิวเคลียร์อเมริกัน B61
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯ ในยุโรป กองกำลังอากาศสหรัฐฯ ด้านแอฟริกาประสบความสำเร็จในวันพุธ (4) สามารถร่อนเครื่องบินรบล่องหน F-35s จำนวน 2 ลำบนถนนไฮเวย์ของฟินแลนด์ได้สำเร็จซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมร่วมประจำปี BAANA 2024
พลเอกเจมส์ เฮคเกอร์ (Gen. James Hecker) ผู้บัญชาการ USAFE-AFAFRICA กล่าวว่า “ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกที่เคยมีมาของพวกเราในการที่เครื่องบิน F-35 เจน 5 ของพวกเราอยู่บนถนนไฮเวย์ในยุโรปถือเป็นหลักฐานต่อการเพิ่มขึ้นด้านความสัมพันธ์และความสามารถปฏิบัติการร่วมที่ใกล้ชิดที่พวกเรามีต่อพันธมิตรฟินแลนด์ของพวกเรา”
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า เพนตากอนได้ย้ำว่า ความสามารถนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อความขัดแย้งที่อาจมีร่วมกับทั้งรัสเซียและจีน จากการที่จีนอาจใช้มิสไซล์โจมตีและทำให้ฐานทัพและรันเวย์ใช้การไม่ได้
และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าเครื่องบินนาโตจากเยอรมนีได้เริ่มต้นซ้อมบินพร้อมระเบิดนิวเคลียร์ B61 แบบตกอิสระเป็นครั้งแรกที่ฐานทัพในรัฐแคลิฟอร์เนีย
นิวสวีกรายงานวานนี้ (6) ว่า นาโตแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ส่งประจำการระเบิดนิวเคลียร์ B61 จำกัดจำนวนในยุโรปเป็นส่วนหนึ่งของการขยายป้องปรามหรือที่รู้จักในนาม “ร่มนิวเคลียร์” (nuclear umbrella)
เป็นที่เชื่อว่า ระเบิดนิวเคลียร์ B61 นี้ถูกประจำไว้ที่ฐานทัพ 6 แห่งในยุโรป รวมถึงฐานทัพอากาศ Büchel ทางตะวันตกของเยอรมนี
โดยภาพถ่ายเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมาที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส์ (Edwards Air Force Base) ในรัฐแคลิฟอร์เนียแสดงให้เห็นเครื่องบินรบขับไล่เยอรมนี Tornado กำลังฝึกบังคับระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 ลูกซ้อมไว้ใต้ปีกอย่างแม่นยำ อ้างอิงจาก
ฮานส์ คริสเตนเซน (Hans Kristensen) ผู้อำนวยการโปรเจกต์ข้อมูลนิวเคลียร์ประจำสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน (Federation of American Scientists)
ทั้งนี้ ระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 ซึ่งเป็นรุ่นที่ถูกพัฒนามาจากระเบิดปรมาณูที่ทิ้งในฮิโรชิมาและนางาซากิเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และทำให้ญี่ปุ่นยอมจำนนและสงครามสิ้นสุดลง
ระเบิดนิวเคลียร์ B61-12 มีระยะระเบิดแบบเลือกสูงสุดที่ 50 กิโลตันของ TNT และอีกทั้งยังเป็นเจนล่าสุดของตระกูลนี้ นิวสวีกกล่าว