เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่อนอกรายงานจับตาสถานการณ์ไทยหลังมีการโปรดเกล้าฯ ให้ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่อายุน้อยที่สุดของไทยแค่ 37 ปี สืบทอดอำนาจตระกูลชินวัตร นักวิเคราะห์ชี้ต้องรับศึกหนักเศรษฐกิจ รัฐบาลปักกิ่งแสดงความยินดีพร้อมสนับสนุนร่วมมือหลังเจ้าตัวเคยประกาศกลางที่ประชุมกลุ่ม BRICS ไทยพร้อมเดินหน้าภายใต้การนำรัสเซียของโลกขั้วใหม่ แขวะสหรัฐฯ "ในอดีตมีแค่ชาติมหาอำนาจไม่กี่ประเทศคอยสั่งการโลก"
CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (18 ส.ค.) ว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันอาทิตย์ (18) ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องที่ได้เห็นทายาทตระกูลชินวัตรกลับเข้ามารับตำแหน่งสูงสุดของประเทศอีกครั้ง
สื่อหลายชาติทั้ง CNN BBC รอยเตอร์ เอพี ต่างรายงานภาพข่าวอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร สวมชุดขาวถ่ายภาพร่วมกับบุตรสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทยในวันอาทิตย์ (18) ด้วยหน้าตาแจ่มใส
CNN ชี้ว่า แพทองธารกลายเป็นนายกรัฐมนตรีไทยที่มีอายุน้อยที่สุดเพียงแค่ 37 ปี ขณะที่ไอริชนิวส์รายงานเจาะลึกว่า ทั้งทักษิณ และแพทองธารเดินมาที่พรรคเพื่อรับการโปรดเกล้าฯ ด้วยรถคันเดียวกันก่อนที่จะลงจากรถจูงมือและเดินคู่กันด้วยความรู้สึกอย่างเป็นสุข
การเมืองไทยพลิกผันอย่ารวดเร็วเพราะเป็นการได้รับโปรดเกล้าขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันอาทิตย์ (18) แต่ก่อนหน้าในวันเสาร์ (17) ทนายความของทักษิณ วิญญัติ ชาติมนตรี (Winyat Chatmontree) ได้โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กว่า อดีตผู้นำไทย ทักษิณ ชินวัตร มีรายชื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษกลายเป็นบุคคลมีเสรีภาพไปในทันที และมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (18) ไอริชนิวส์รายงาน
อัลญะซีเราะห์ของกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัญหาตรงหน้าที่สำคัญของรัฐบาลชุดใหม่คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ถือเป็นเรื่องวิตกมากที่สุดสำหรับประชาชนชาวไทยในเวลานี้
นักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ในไทยกล่าวว่า ทุกคนพากันตั้งคำถามถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่พรรคของเธอให้คำมั่นในช่วงหาเสียงจะแจกเงิน 10,000 บาททุกคน แต่ปัจจุบันยังไม่มีการเดินหน้า
โดยในการแถลงครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี แพทองธาร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” กล่าวยืนยันว่า จะเดินหน้าทุกนโยบายของรัฐบาลชุดเก่าที่ได้ทำไว้
ทั้งนี้ ประวิตร โรจนพฤกษ์ (Pravit Rojanaphruk) นักวิเคราะห์ประจำสื่อไกเซอร์ ภาษาอังกฤษ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อกาตาร์จากสิงคโปร์ว่า
“ในตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา 9 ใน 10 ปีอยู่ภายใต้การปกครองของทหารและกึ่งทหาร เศรษฐกิจไทยเป็นไปไม่ค่อยดี” และเสริมต่อว่า “ชาติไทยล้าหลังตามเพื่อนบ้านและหนี้สาธารณะสูง”
และกล่าวเสริมว่า การที่แพทองธารได้ประกาศว่า จะไม่แต่งตั้งพ่อของตัวเองดำรงตำแหน่งใดนั้นมันได้สร้างความโล่งอกให้คนหลายคน
สื่อไทยภาคภาษาอังกฤษรายงานว่า ปักกิ่งได้รีบแสดงความยินดีต่อแพทองธาร ชินวัตร มาตั้งแต่วันศุกร์ (16) โดยในระหว่างการตอบถามรายงานสรุปของกระทรวงต่างประเทศจีนที่กรุงปักกิ่ง
โฆษกกระทรวงได้กล่าวว่า “จีนขอแสดงความยินดีต่อ แพทองธาร ชินวัตร ในการรับเลือกให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย พวกเราเชื่อมั่นว่าประชาชนชาวไทยจะสร้างความสำเร็จครั้งใหม่ที่ใหญ่มากขึ้นในหนทางการพัฒนาที่เหมาะสมเป็นไปตามเงื่อนไขของไทย”
นอกจากนี้ ในคำแถลงปักกิ่งยังให้การสนับสนุนรัฐบาลแพทองธารอย่างแข็งขันด้วยการกล่าวว่า
“จีนและไทยถือเป็นครอบครัวเดียวกัน และจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ฉันมิตรตามธรรมเนียมเดินไปข้างหน้า กระความร่วมมือในเชิงปฏิบัติ และส่งมอบความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นในการสร้างประชาคมไทย-จีนพร้อมกับอนาคตร่วมกัน”
และในขณะเดียวกันที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่หันหน้าไปหาขั้วตรงข้ามโลกตะวันตกและเป็นครั้งแรกส่งใบสมัครเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ที่มีรัสเซีย-จีนเป็นผู้นำเพื่อชิงความเป็นขั้วประเทศมหาอำนาจแข่งโลกตะวันตก
สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของไทยได้ยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ ในเมืองนิจนีนอฟโกรอด (Nizhny Novgorod) เพื่อแสดงเจตจำนงการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกกลุ่ม BRICS โดยสมบูรณ์
สื่อรัสเซียรายงานว่า แพทองธารในฐานะผู้นำพรรคเพื่อไทยได้กล่าวว่า “ในฐานะประธานของกลุ่ม BRICS รัสเซียจะให้เสียงแก่ทุกชาติถึงแม้ว่าชาติเหล่านั้นในอดีตจะไม่เคยถูกได้ยินเป็นส่วนใหญ่
เป็นการกล่าวในที่ประชุมโลกหลายขั้วว่าด้วย "World Majority for a Multipolar World"
และเสริมต่อว่า “ดิฉันขอขอบคุณรัสเซียจากจุดยืนที่แข็งแกร่ง บทบาทประเทศของคุณต่อ BRICS ในระดับข้ามพรรคและระดับระหว่างรัฐบาล”
TASS รายงานต่อว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวชี้ว่า “พวกเราเชื่อว่าแพลตฟอร์มนี้มีประโยชน์มากสำหรับการสร้างสรรค์ที่ไม่แค่เพียงสำหรับการจัดระเบียบโลกแต่เพื่อทำให้มั่นใจถึงความเป็นโลกหลายขั้ว
แพทองธารได้ยินยอรัสเซียในฐานะประเทศผู้นำขั้วตรงโลกเสรี และวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ และตะวันตกในเวลาเดียวกันว่า
“พวกเรารู้สึกเชื่อมั่นว่ากลุ่ม BRICS ภายใต้การเป็นประธานของรัสเซีย ประเทศต่างๆ ที่ไม่เคยถูกได้ยินมาก่อนในที่สุดจะสามารถส่งเสียงออกมาได้”
แพทองธารย้ำว่า “ซึ่งในอดีตมีเพียงชาติมหาอำนาจซูเปอร์เพาเวอร์เพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่สามารถกำหนดเงื่อนไขของตัวเองได้”
TASS รายงานว่า ในคำแถลงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่า นายกรัฐมนตรี (เศรษฐา ทวีสิน) ได้ส่งหนังสือไปยังประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน “เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความปรารถนาของพวกเราในการเข้าร่วมกลุ่ม BRICS โดยเร็วที่สุด”
แพทองธาร ย้ำว่า ประเทศไทยเชื่อในการเติบโตของกลุ่ม BRICS และย้ำว่าต้องการเริ่มงานโดยเร็วในอนาคตอันใกล้ โดยย้ำว่าไทยควรติดต่อกับชาติต่างๆ และวัฒนธรรมหลากหลาย