(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
Chinese students in Netherlands stuck in tech war crossfire
by Jeff Pao
30/07/2024
สหรัฐฯกำลังกดดันมหาวิทยาลัยต่างๆ ของเนเธอร์แลนด์ ให้จำกัดควบคุมนักศึกษาจีนไม่ให้เข้าถึงพวกเทคโนโลยีอ่อนไหวทั้งหมด เรื่องนี้กระตุ้นให้สื่อมวลชนจีนและคอมเมนเตเตอร์ชาวจีนพากันยัวะจัด
เนเธอร์แลนด์จะสูญเสียผู้มีความรู้ความสามารถระดับท็อปในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ถ้าประเทศนี้ยังคงบังคับใช้มาตรการตรวจสอบด้านความมั่นคงแห่งชาติกับพวกนักศึกษาจีนที่สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของพวกเขา รายงานของสื่อภาครัฐของจีน และพวกคอมเมนเตเตอร์แนวทางชาตินิยมของแดนมังกร ต่างกล่าวยืนกรานเช่นนี้ในสงครามเทคที่สู้กันแบบตาต่อตาฟันต่อฟันรอบล่าสุดนี้
การแสดงความคิดเห็นของทางฝ่ายจีนเหล่านี้ ปรากฏออกมาหลังจาก โรเบิร์ต-แจน สมิตส์ (Robert-Jan Smits) ประธานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟน (Eindhoven University of Technology) ของเนเธอร์แลนด์ บอก [1] กับสื่อบลูมเบิร์กเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเนเธอร์แลนด์ได้ตั้งคำถามกับเขาในเรื่องทำไมมหาวิทยาลัยของเขาจึงมีนักศึกษาที่มาจากประเทศจีนมากมายเช่นนี้
สมิตส์กล่าวว่ามีการบังคับใช้ข้อจำกัดบางอย่างบางประการไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยมีความระมัดระวังอย่างยิ่งยวดในเรื่องการอนุญาตให้นักศึกษาเข้าถึงเทคโนโลยีอ่อนไหวระดับสุดยอดของประเทศ มหาวิทยาลัยไอนด์โฮเฟนแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างประมาณ 8 กิโลเมตรจากสำนักงานใหญ่ระดับโลกของบริษัท ASML ผู้ผลิตและซัปพลายเออร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ในเรื่องพวกเครื่องจักรอุปกรณ์ในการทำชิประดับก้าวหน้า
บลูมเบิร์กระบุด้วยว่า กว่าหนึ่งในสี่ของนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยไอด์โอเฟนเป็นนักศึกษานานาชาติ ทว่ารายละเอียดยิ่งขึ้นของตัวเลขนี้ (เช่น เป็นนักศึกษาจีนจำนวนเท่าใด) เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้จากข้อมูลสาธารณะ
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ASML แถลง [2] ว่าจะขยายความร่วมมือที่มีอยู่กับมหาวิทยาลัยไอนด์โฮเฟนออกไปอีกในตลอดช่วงทศวรรษหน้า โดยผ่านการลงทุนเป็นจำนวน 80 ล้านยูโร (87 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อสนับสนุนการวิจัยและการฝึกอบรมของทางมหาวิทยาลัยในสาขาต่างๆ ซึ่งรวมถึง ฟิสิกส์พลาสมา (plasma physics), วิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ (mechatronics), ทัศนศาสตร์ (optics), และ ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence)
ในส่วนของมหาวิทยาลัยเอง ก็วางแผนการจะลงทุนเป็นเงินกว่า 100 ล้านยูโร เพื่อจัดสร้าง “ห้องคลีนรูม” (cleanroom) หรือก็คือสภาพแวดล้อมที่ปราศจากฝุ่น ขึ้นมา เพื่อใช้ในการวิจัยกระบวนการผลิตชิปในโรงงาน รวมทั้งให้ความอุดหนุนทางการเงินแก่โครงการนักศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยในระยะเวลา 10 ปีต่อจากนี้ไป
เครื่องพิมพ์ลายบนแผ่นชิป (lithography) เทคโนโลยีล้ำหน้าระดับ EUV
เนเธอร์แลนด์นั้น ตกอยู่ในสภาพกำลังถูกตรึงแน่นอยู่ตรงกลางสมรภูมิสงครามเทคระหว่างสหรัฐฯ-จีนอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย เมื่อปี 2019 สหรัฐฯได้ขอร้องรัฐบาลดัตช์ให้ยุติการอนุญาตส่งออกเครื่องจักรพิมพ์ลายบนแผ่นชิปที่ใช้เทคโนโลยีเอ็กซ์ตรีม อัลตราไวโอเลต (extreme ultraviolet หรือ EUV) อันล้ำยุคไปยังประเทศจีน การที่สหรัฐฯสามารถมีส่วนมีเสียงในประเด็นนี้ได้ เนื่องจากสหรัฐฯเป็นเจ้าของสิทธิบัตรสำคัญมากบางชิ้นที่จำเป็นสำหรับการผลิตเครื่องจักรระบบ EUV
เมื่อปราศจากเครื่องจักรพิมพ์ลายบนแผ่นชิประดับ EUV พวกผู้ผลิตชิปจีนก็มีศักยภาพเพียงแค่ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับ 7 นาโนเมตร ออกมาเท่านั้น ไม่สามารถทำชิปขนาดเล็กกว่านั้น ซึ่งพวกแอปพลิเคชั่นรุ่นก้าวหน้าขึ้นไปจำเป็นต้องใช้เป็นตัวให้พลัง เวลาเดียวกัน พวกบริษัทไต้หวันและเกาหลียังกำลังก้าวหน้าต่อไปถึงขั้นทำชิประดับ 2-3 นาโนเมตรกันแล้ว ซึ่งถือว่านำหน้าชิป 7 นาโนเมตรไปราว 2-3 เจนเนอเรชั่นทีเดียว
“ASML มีเทคโนโลยี EUV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับก้าวหน้าที่ประเทศของเราต้องการอย่างเร่งด่วน” คอลัมนิสต์ที่ตั้งฐานอยู่ในมณฑลเหอหนานรายหนึ่งเขียนเช่นนี้ในข้อเขียน [3] ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม “สหรัฐฯรู้ดีว่าประเทศเรายังอ่อนแอมากในเรื่องนี้ ดังนั้น พวกเขาจึงรบเร้าเนเธอร์แลนด์ให้ใช้มาตรการปิดล้อมทางเทคโนโลยีใส่เรา”
คอลัมนิสต์ผู้นี้บอกว่า จนถึงตอนนี้เนเธอร์แลนด์ได้บังคับใช้มาตรการจำกัดเข้มงวดบางประการในการรับนักศึกษาจีน ตลอดจนในการเลือกเรียนวิชาของนักศึกษาจีนที่เข้ามหาวิทยาลัยดัตช์ได้แล้ว เขาระบุว่าพวกนักศึกษาจีนในเนเธอร์แลนด์ได้กลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวของสงครามเทคระหว่างสหรัฐฯ-จีนไปเสียแล้ว และกล่าวหาว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังก่อกวนขัดขวางความร่วมมือระดับโลกในด้านการศึกษา, การฝึกอบรม, และการกระจายผู้มีความรู้ความสามารถ โดยใช้ข้ออ้างบังหน้าว่ากำลังปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของตน
ทางด้าน หยาง หรง (Yang Rong) คอลัมนิสต์ผู้หนึ่งของเว็บไซต์ข่าวภาษาจีน Guancha.cn ก็เขียนบทความซึ่งระบุว่า “สหรัฐฯยังคงกดขี่ปราบปรามการพัฒนาภาคเซมิคอนดักเตอร์ของจีน และก่อกวนขัดขวางระเบียบของอุตสาหกรรมนี้ ด้วยการดึงเอามหาวิทยาลัยที่หนุนหลังโดย ASML เข้าไปในสิ่งที่เรียกกันว่าสงครามชิประหว่างสหรัฐฯ-จีน”
หยางกล่าวว่า การคัดกรองนักศึกษาจีนในเนเธอร์แลนด์ อยู่ในแนวทางเดียวกับการสอบปากคำพวกนักศึกษาจีนในสหรัฐฯ “อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ตลอดจนการส่งนักศึกษาจีนที่เพิ่งเดินทางถึงสหรัฐฯโดยมีเอกสารอนุญาตให้เข้าศึกษาที่นั่นอย่างถูกต้องกลับบ้านไป นับตั้งแต่ต้นปีนี้เรื่อยมา
เธอบอกว่า ถึงแม้สหรัฐฯได้ออกวีซ่านักศึกษาให้แก่นักศึกษาจีนเพิ่มมากขึ้นในปี 2023 ทว่ามีนักศึกษาจีนเพียง 290,000 คนเท่านั้นที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐฯในปีที่แล้ว ต่ำลงมาถึงราว 20% จากระดับ 370,000 คนเมื่อปี 2019
คอลัมนิสต์กล่าวยืนยันว่า สหรัฐฯกำลังปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายแบบ “มุ่งเล่นงานบางคนบางกลุ่ม, เลือกปฏิบัติ, และมีแรงจูงใจในทางการเมือง” มาเล่นงานพวกนักศึกษาจีน สืบเนื่องจากสหรัฐฯกำลังมีความคิดจิตใจแบบอยู่ในสงครามเย็นครั้งใหม่
ก่อนหน้านี้ในปีนี้ เซี่ย เฟิง (Xie Feng) เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ได้ออกมาแถลงเช่นกันว่า มีชาวจีนหลายสิบคนซึ่งถือวีซ่าที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าสหรัฐฯ
ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง เหวินปิน (Wang Wenbin) กล่าวสำทับว่า มีนักศึกษาจีนอย่างน้อย 8 คนถูกส่งตัวกลับประเทศอย่างไม่มีเหตุผลอันชอบธรรมใดๆ รองรับ โดยฝีมือของพวกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศดัลเลส (Dulles International Airport) ในวอชิงตัน ดีซี
เนเธอร์แลนด์กีดกันนักศึกษาจีน
เดลต้า (Delta) เว็บไซต์ข่าวอิสระในเนเธอร์แลนด์ รายงาน [4] จากมหาวิทาลัยเทคโนโลยีเดลฟต์ (Delft University of Technology) เมื่อเดือนเมษายน 2023 ว่า ในเนเธอร์แลนด์ มีนักศึกษาระดับปริญญาเอกชาวจีนจำนวนราวๆ 2,000 คน ซึ่งกำลังได้รับทุนการศึกษาจากคณะกรรมการทุนการศึกษาจีน (China Scholarship Council หรือ CSC)
รายงานนี้กล่าวต่อไปว่า นักศึกษาเหล่านี้ต้องรายงานความก้าวหน้าทางการศึกษาของพวกเขาต่อสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำเนเธอร์แลนด์ทุกๆ ภาคเรียน ขณะที่ AIVD สำนักงานข่าวกรองดัตช์แถลง [5] ในตอนนั้นว่า พวกมหาวิทยาลัยของเนเธอร์แลนด์ถือเป็น “เป้าหมายที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ” สำหรับพวกสายลับต่างประเทศ โดยเฉพาะพวกที่มาจากจีน
ทางด้าน โกลบอลไทมส์ (Global Times) สื่อที่ดำเนินการโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน รายงาน [6] เอาไว้ว่า ในปี 2023 มีนักศึกษาจีนในเนเธอร์แลนด์จำนวน 5,610 คน โดยที่ 1,441 คนกำลังศึกษาทางด้านวิศวกรรม ส่วนที่เหลือเรียนวิชาเอกทางเศรษฐศาสตร์ (1,422 คน), ภาษาและวัฒนธรรม (800 คน), และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (600 คน)
ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว รัฐบาลดัตช์แถลงว่ากำลังร่างกฎหมาย [7] ซึ่งมุ่งหยุดยั้งไม่ให้รับนักศึกษาจีนเข้าศึกษาในโปรแกรมระดับมหาวิทยาลัยที่เป็นเรื่องเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหว โดยรวมไปถึงการศึกษาด้านกลาโหม และเซมิคอนดักเตอร์ โดยที่ร่างกฎหมายใหม่นี้ [8] ถ้าหากผ่านรัฐสภาและมีการประกาศบังคับใช้ ก็จะควบคุมไม่เฉพาะแต่นักศึกษาปริญญาเอกชาวจีนเท่านั้น หากยังพวกนักศึกษาอื่นๆ ซึ่งมาจากนอกสหภาพยุโรปอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ปรากฏว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ยังคงติดค้างอยู่ในรัฐสภา เวลาเดียวกัน รัฐมนตรีศึกษาธิการดัตช์ เอปโป บรุนส์ (Eppo Bruins) แถลง [9] ว่ารัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะใช้ “วิธีการที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย” เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผลในทางกระทบกระเทือนต่อการรับนักศึกษาชาวจีนที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการเป็นจำนวนมากๆ
ขณะที่อาจารย์ผู้ชำนาญการเรื่องเทคโนโลยีชิป ณ มหาวิทยาลัยไอนด์โอเฟน บอก [10] กับบลูมเบิร์กว่า ในตอนนี้เป็นเรื่องยากลำบากมากขึ้นที่จะรับนักศึกษาจีน เขาบอกว่านักศึกษาเหล่านี้จำนวนมากทีเดียวเวลาต้องต่อสู้ดิ้นรนหนักเพียงเพื่อให้ได้เข้าฝึกงานแค่ 1 ปี เนื่องจากพวกบริษัทชิปเนเธอร์แลนด์ต่างพยายามหลีกเลี่ยงไม่ว่าจ้างพวกเขา
แรงกดดันจากสงครามเทคสหรัฐฯ
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อบลูมเบิร์ก สมิตส์ ประธานาของมหาวิทยาลัยไอนด์โอเฟน บอกว่าทาง เชฟาลี รัซดัน ดักกัล (Shefali Razdan Duggal) เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเนเธอร์แลนด์ ได้รบเร้าเขาให้ระมัดระวังให้มากในเรื่องนักศึกษาจีน อย่างไรก็ดี เขาบอกว่ารัฐบาลสหรัฐฯยังคงมีการออกวีซ่าทุกๆ ประเภทให้แก่นักศึกษาจีน ซึ่งเข้าศึกษาในพวกมหาวิทยาลัยอเมริกัน
ในปี 2019 มีรายงานว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ได้รบเร้า [11] พวกมหาวิทยาลัยอเมริกันอย่างน้อย 10 แห่งให้เฝ้าติดตามอย่างกระตือรือร้นเรื่องการมาสหรัฐฯ ของพวกนักศึกษาและพวกนักวิชาการรับเชิญชาวจีน เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าพวกเขากำลังได้รับรู้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างไรกันบ้าง
นอกจากนั้น FBI ยังรบเร้าพวกผู้บริหารมหาวิทยาลัยอเมริกันให้เพิ่มการกำกับตรวจสอบพวกนักวิจัยชาวจีน และหลีกเลี่ยงการรับเงินทุนจัดทำโครงการจากพวกกิจการด้านเทคของจีน อย่างเช่น หัวเว่ย ที่ถูกวอชิงตันขึ้นบัญชีดำใช้มาตรการแซงก์ชั่นไปแล้ว นับแต่นั้นมาก็มีรายงานว่าพวกมหาวิทยาลัยอเมริกันจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้จำกัดนักศึกษาจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีอ่อนไหวต่างๆ
อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่งปรากฏว่ามีนักศึกษาชาวอเมริกันเองที่กำลังศึกษาวิชาการซึ่งเรียกกันว่าสะเต็มศึกษา (STEM ย่อมาจาก science, technology, engineering and mathematics วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม, และคณิตศาสตร์) เป็นจำนวนไม่เพียงพอ โดยคนที่ออกมาพูดเรื่องนี้คือ เคิร์ต แคมป์เบลล์ (Kurt Campbell) รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวเช่นนี้ [12] เมื่อเดือนมิถุนายน กับสภาเพื่อความสัมพันธ์ต่างประเทศ (Council on Foreign Relations) องค์การคลังสมองทรงอิทธิพลทางด้านนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯที่ตั้งสำนักงานอยู่ในนครนิวยอร์ก
เขาเสนอแนะว่า สหรัฐฯควรเริ่มรับนักศึกษาในสาขาวิชาเหล่านี้จากนานาชาติให้มากขึ้น โดยรับจากอินเดียแต่ไม่เอานักศึกษาจากจีน ทั้งนี้แคมป์เบลล์ยกตัวอย่างว่าสหรัฐฯควรยินดีรับนักศึกษาจีนเฉพาะพวกที่เข้ามาศึกษาด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์เท่านั้น ไม่ใช่ในด้านฟิสิกส์อนุภาค (particle physics)
ตามข้อมูลสถิติของเว็บไซต์ Statista.com ในจำนวนนักศึกษาจีน 290,000 คนซึ่งอยู่ในสหรัฐฯในปีการศึกษาที่คร่อมระหว่างปีปฏิทิน 2022 และ 2023 มีราวๆ 23.2% เป็นผู้ที่ศึกษา [13] ทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ขณะที่คนอื่นๆ ศึกษาทางด้านวิศวกรรม (16.8%), การบริหารธุรกิจ (13.4%), สังคมศาสตร์ (11.2%), และ ฟิสิกส์/วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (9.8%) ข้อมูลตัวเลขของ Statista ระบุ
เชิงอรรถ
[1] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-07-15/us-pressure-on-dutch-china-links-reaches-asml-funded-university
[2]https://www.photonics.com/Articles/ASML_and_TU_Eindhoven_Commit_to_195M_for/a70009
[3] https://baijiahao.baidu.com/s?id=1805567944964495024&wfr=spider&for=pc
[4] https://dub.uu.nl/en/news/chinese-phd-candidates-scholarships-netherlands-report-embassy
[5] https://www.deccanherald.com/world/dutch-government-to-screen-foreign-phd-tech-students-denies-targeting-china-1227160.html
[6] https://www.globaltimes.cn/page/202306/1292497.shtml
[7] https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-06-12/dutch-seek-to-bar-chinese-students-from-tech-courses-in-chip-war
[8] https://www.reuters.com/world/europe/dutch-government-screen-foreign-phd-tech-students-denies-targeting-china-2023-06-12/
[9] https://www.japantimes.co.jp/news/2024/07/16/world/asml-university-us-china-chips/
[10] https://www.bloomberg.com/news/articles/2024-07-15/us-pressure-on-dutch-china-links-reaches-asml-funded-university
[11] https://www.independent.co.uk/news/world/americas/fbi-chinese-students-association-of-american-universities-research-a8980621.html
[12] https://www.nbcnews.com/news/asian-america/us-needs-chinese-students-humanities-indian-students-sciences-us-diplo-rcna158795
[13] https://www.statista.com/statistics/372909/chinese-students-in-the-us-by-subject/#:~:text=The%20statistic%20shows%20the%20study,in%20mathematics%20or%20computer%20science.