อิสราเอลโจมตีตอนกลางของกาซาตลอดคืนวันจันทร์จนถึงวันอังคาร (15-16 ก.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 24 คน แม้รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งตั้งข้อสังเกตกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลว่า จำนวนการสูญเสียของพลเรือนปาเลสไตน์สูงเกินกว่ายอมรับได้ก็ตาม
การเสียชีวิตของพลเรือนในนูเซรัต และซาเวดา ที่รวมถึงผู้หญิง 10 คน และเด็ก 4 คนนั้น เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่ฮามาสระบุว่า การเจรจาหยุดยิงเพื่อยุติสงครามในกาซาที่ดำเนินมา 9 เดือนจะเดินหน้าต่อไปแม้อิสราเอลพุ่งเป้าโจมตีโมฮัมเหม็ด ดาอีฟ ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธของฝ่ายตน ที่ขณะนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมที่แน่นอนก็ตาม
ทางด้านคณะผู้ไกล่เกลี่ยนานาชาติยังคงพยายามกดดันให้อิสราเอลและฮามาสเห็นด้วยกับข้อตกลงที่จะนำไปสู่การหยุดยิงและปล่อยตัวประกันอิสราเอลราว 120 คนที่ถูกคุมขังในกาซา
เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเผยว่า การโจมตีเมื่อคืนวันจันทร์จนถึงเช้าวันอังคารทำลายบ้านเรือน 4 หลัง ขณะที่กองทัพอิสราเอลระบุเพียงว่า ได้ทำการโจมตีโดยกำหนดเป้าหมายที่กลุ่มก่อการร้ายในบริเวณตอนกลางของกาซา
ที่กาซาตอนใต้ พลเรือน 9 คนเสียชีวิตจากการโจมตีในเมืองข่านยูนิส และราฟาห์เมื่อคืนวันจันทร์
ทางด้านกองทัพอิสราเอลแถลงว่า เครื่องบินของกองทัพอากาศโจมตีเป้าหมาย 40 จุดในกาซาในวันจันทร์ ซึ่งรวมถึงจุดตรวจการณ์ โครงสร้างพื้นฐานของกองกำลังฮามาส และอาคารที่ใช้ประกอบระเบิด
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำกับรอน เดอร์เมอร์ และซาชิ ฮาเนกบี รัฐมนตรีกิจการยุทธศาสตร์และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล ที่เดินทางเยือนวอชิงตันว่า จำนวนการสูญเสียของพลเรือนในกาซาสูงเกินกว่ายอมรับได้
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.) อิสราเอลโจมตีค่ายอัล-มาวาซีใกล้เมืองข่านยูนิส ซึ่งอิสราเอลเองเคยประกาศเป็น “พื้นที่ปลอดภัย” ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 90 คน
กองทัพอิสราเอลแถลงเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวว่า มีเป้าหมายที่เดอีฟ และราฟา ซาลามา ผู้ช่วยคนสนิท ซึ่งถูกสังหารในปฏิบัติการนี้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลทั้งสองคนบอกกับบลิงเคนว่า ยังไม่รู้ชะตากรรมของเดอีฟ ที่ฮามาสยืนยันว่า ปลอดภัยดีโดยไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยัน
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า การหารือระหว่างบลิงเคนกับเดอร์เมอร์ และฮาเนกบี ยังครอบคลุมถึงการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับกาซาและแผนการหลังสงคราม
มิลเลอร์สำทับว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ถูกคาดหมายว่า จะเดินทางเยือนสหรัฐฯ และปราศรัยต่อคองเกรสในวันพุธหน้า (24 ก.ค.) ซึ่งอเมริกายังคงหวังว่า จะได้ยินจากเนทันยาฮูโดยตรงว่า อิสราเอลต้องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและยึดมั่นกับข้อเสนอที่ผลักดัน
อเมริกานั้นปกป้องอิสราเอลอย่างแข็งขันนับตั้งแต่ถูกนักรบฮามาสบุกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่มีผู้เสียชีวิต 1,195 คน และอีก 251 คนถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งขณะนี้ยังถูกคุมขังในกาซา 116 คน รวมถึง 42 คนที่กองทัพอิสราเอลเชื่อว่า เสียชีวิตแล้ว
นับจากเหตุการณ์ดังกล่าว อิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการล้างแค้นด้วยการปิดล้อมและบุกโจมตีกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อย่างน้อย 38,584 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
ชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถูกกดดันทางการเมืองอย่างหนัก
ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ มิลเลอร์ยืนยันว่า คณะบริหารกังวลใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตในกาซาที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ถูกผู้สื่อข่าวซักถามเกี่ยวกับอาวุธที่อเมริกาจัดหาให้อิสราเอล
(ที่มา : เอพี, เอเอฟพี)