(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)
China’s legacy chips in EU’s crosshairs
By JEFF PAO
09/07/2024
สหภาพยุโรปกำลังเดินตามสหรัฐฯต้อยๆ ในการลงลึกตรวจสอบว่าพวกผู้ผลิตชิปรุ่นเก่าของจีนได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาลอย่างไรบ้าง โดยคาดการณ์กันว่าจะลงเอยด้วยการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้เป็นที่ยอมรับกันว่ายุโรปขาดศักยภาพและไร้แรงจูงใจที่จะผลิตสินค้าประเภทนี้ขึ้นมาด้วยตนเอง
สหภาพยุโรปกำลังเตรียมการจัดทำการสำรวจ 2 เรื่องที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบว่า การที่จีนมีความสามารถผลิตพวกเซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่า เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังส่งผลกระทบกระเทือนอย่างไรบ้างต่ออียู
ตามรายงานในวันเสาร์ (6 ก.ค.) ที่ผ่านมา ของสำนักข่าวรอยเตอร์ [1] ทางคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission หรือ EC) ที่เป็นองค์กรบริหารของอียู จะดำเนินการสำรวจ 2 เรื่องดังที่ว่าในเดือนกันยายนนี้ โดยเรื่องหนึ่งครอบคลุมพวกกิจการทางอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ใช้ชิปรายใหญ่ๆ และอีกเรื่องหนึ่งเป็นการสำรวจซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมชิปโดยรวม
รายงานข่าวนี้ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวที่มิได้มีการระบุชื่อรวม 2 ราย กล่าวว่า ทาง EC เริ่มต้นขอความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างคำถามต่างๆ ในการสำรวจ 2 เรื่องนี้กันแล้วด้วยซ้ำ
โดยที่ EC จะถามพวกกิจการที่ต้องใช้ชิปเป็นจำนวนมาก ในประเด็นที่ว่าพวกเขาจัดหาจัดซื้อชิปชนิดซึ่งนิยมเรียกขานกันเป็นภาษาอังกฤษว่า “legacy chips” ( อีกคำหนึ่งที่นิยมใช้เช่นกัน คือ maiture chips หรือ mature-node semiconductors -ผู้แปล) ซึ่งหมายถึงชิปขนาด 28 นาโนเมตรและที่เป็นรุ่นเก่ากว่านั้นอีก จากที่ไหนกันบ้าง ขณะที่ในอีกทางเรื่อง องค์การบริหารของอียูแห่งนี้ ก็จะสอบถามพวกผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของสหภาพยุโรป เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการกำหนดราคาของพวกเขา ตลอดจนพวกเขามีข้อสรุปประเมินอย่างไรเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารอย่างเดียวกันนี้ที่มาจากพวกคู่แข่ง ซึ่งก็รวมไปถึงพวกคู่แข่งที่เป็นกิจการของจีนด้วย
ก่อนหน้าการเคลื่อนไหวคราวนี้ EC ได้เคยออกมาแถลงในตอนต้นเดือนเมษายน [2] ว่า จะดำเนินการสำรวจด้านต่างๆ เพื่อประเมิน “ความน่าเชื่อถือไว้วางใจได้” ของพวกชิปรุ่นเก่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังคงถูกนำมาใช้ในทุกสิ่งทุกอย่างกว้างขวางมาก ตั้งแต่ด้านการบินและอวกาศ รถยนต์ ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านเรือน ตลอดจนเพื่อค้นหาหลักฐานว่ามีพฤติกรรมที่เป็นการบิดเบือนตลาดอย่างไรบ้าง
รายงานของรอยเตอร์เมื่อวันเสาร์ (6 ก.ค.) ปรากฏออกมา หลังจาก EC ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรชั่วคราวอัตราสูงสุดไม่เกิน 37.6% เอากับพวกพวกยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จากจีนตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม โดยที่สหภาพยุโรปมีกำหนดจะตัดสินกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ว่าภาษีเพิ่มชั่วคราวนี้จะเปลี่ยนไปเป็นการจัดเก็บอย่างถาวรหรือไม่
ทั้งรัฐบาลจีนและพวกผู้ผลิตรถยนต์จีนต่างกล่าวว่า พวกเขาจะเจรจากับอียูในเรื่องนี้ จวบจนถึงเวลานี้ ทางฝ่ายจีนก็ได้เริ่มเปิดการสอบสวนมุ่งต่อต้านการทุ่มตลาดเอากับพวกเนื้อหมูและบรั่นดีที่นำเข้ามาจากยุโรป โดยที่ สเปน และฝรั่งเศส คือประเทศสำคัญที่ส่งออกเนื้อหมูและบรั่นดีตามลำดับจากภูมิภาคดังกล่าวมายังจีน
ก่อนหน้านั้น เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯออกคำแถลง [3] ว่า สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Bureau of Industry and Security หรือ BIS) ของทางกระทรวง จะเปิดการสำรวจในเดือนมกราคม 2024 เพื่อให้ทราบว่าพวกกิจการของสหรัฐฯกำลังจัดซื้อจัดหาชิปทั้งที่เป็นรุ่นปัจจุบันและที่เป็นรุ่นเก่าจากที่ไหนกันบ้าง
ขณะเดียวกันนั้น ทาง BIS ได้ระบุเอาไว้ในรายงานการศึกษาชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่ออกมาในเดือนธันวาคมปี 2023 เช่นกัน [4] ว่า รัฐบาลจีนได้จัดหาการอุดหนุนให้แก่พวกผู้ผลิตชิปของตนคิดเป็นมูลค่าราว 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงานแห่งนี้ประเมินว่าน่าที่จะทำให้เกิดสนามการแข่งขันระดับโลกที่ไม่เป็นธรรมขึ้นมา สำหรับพวกคู่แข่งของจีนที่เป็นบริษัทสหรัฐฯตลอดจนกิจการต่างประเทศอื่นๆ
หลังจากพบหารือกับรัฐมนตรีพาณิชย์ จีนา ไรมอนโด (Gina Raimondo) ของสหรัฐฯ ณ การประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการการค้าและเทคโนโลยี อียู-สหรัฐฯ (EU-US Trade and Technology Council) ในเบลเยียม ระหว่างวันที่ 4-5 เมษายนแล้ว มาร์เกรเตอ เวสเตยาร์ (Margrethe Vestager) กรรมาธิการยุโรปฝ่ายการแข่งขัน (European Commissioner for Competition) แถลงว่า อียูจะร่วมมือประสานงานกับสหรัฐฯในการดำเนินการสำรวจโดยสมัครใจเกี่ยวกับเรื่องชิปรุ่นเก่าของจีน
คอลัมนิสต์ด้านไอทีชาวจีนผู้หนึ่งซึ่งเขียนโดยใช้นามแฝงว่า “อังเคิลเปียว” (Uncle Biao) กล่าวในข้อเขียน [5] ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมว่า “จีนได้สร้างอุตสาหกรรมชิปรุ่นเก่าของตนขึ้นมา โดยที่มีอุปสงค์ของอุตสาหกรรมปลายน้ำขนาดมหึมาของตนเองรองรับอยู่” และกล่าวต่อไปว่า “กระทั่งถ้าสหรัฐฯและอียูจับมือกันเพื่อกดขี่เล่นงานจีนด้วยวิธีการที่ไม่ใช่เรื่องของตลาดเลย พวกเขาก็จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่าจีนกำลังใกล้จะเข้าครอบงำตลาดชิปรุ่นเก่าแล้ว”
“ตราบใดที่จีนยังคงเปิดตลาดของตนเอาไว้ จีนก็จะไม่เพียงครองฐานะครอบงำในตลาดชิปรุ่นเก่าเท่านั้น แต่ยังสามารถผ่าทางตันทางเทคโนโลยีในภาคชิประดับก้าวหน้าอีกด้วย”
ส่วนแบ่งในตลาดทั่วโลกของจีนสำหรับพวกชิปรุ่นเก่า จะเพิ่มขึ้นจากระดับ 31% ในตอนสิ้นปี 2023 ที่ผ่านมา เป็น 39% ภายในปี 2027 [6] ทั้งนี้ตามการวิเคราะห์ของ เทรนด์ฟอร์ซ (TrendForce) บริษัทที่ปรึกษาและข่าวกรองการตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งมีฐานอยู่ที่ไต้หวัน
ตามข้อมูลตัวเลขของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Ministry of Industry and Information Technology) ของจีน ระบุว่า การผลิตแผงวงจรรวม (integrated circuit) ของจีนเพิ่มสูงขึ้น 32.7% มาอยู่ที่ 170,300 ล้านหน่วยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว โดยที่ข้อมูลศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า แดนมังกรส่งออกแผงวงจรรวมเพิ่ม 10.5% ขึ้นไปที่ 113,900 ล้านหน่วยในช่วงเวลาดังกล่าว
ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor Industry Association หรือ SIA) ของสหรัฐฯ แถลงในวันที่ 5 กรกฎาคมว่า ยอดขายของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในทั่วโลก พุ่งขึ้น [7] 19.3% เป็น 49,100 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 จาก 1 ปีที่แล้ว โดยหากแยกออกเป็นภูมิภาค ยอดขายเปรียบเทียบปีต่อปีจะสูงขึ้นในภูมิภาคอเมริกาเหนือและใต้ (43.6%), จีน (24.2%) และ เอเชียแปซิฟิก (นอกเหนือจากจีนและญี่ปุ่น) (13.8%) ทว่าลดต่ำลงที่ ญี่ปุ่น (-5.8%) และ ยุโรป (-9.6%)
ขณะที่ทั้งสหรัฐฯและอียูต่างกำลังดำเนินการสอบสวนในกรณีนี้อยู่ แต่พวกคอมเมนเตเตอร์บางรายให้ความเห็นว่า ทั้งคู่น่าที่ประกาศบังคับเก็บภาษีศุลกากรจากพวกชิปรุ่นเก่าของจีนในอนาคตอันใกล้นี้
“ถ้าอียูบังคับใช้มาตรการจำกัดใหม่ๆ หรือภาษีศุลกากรใหม่ จากชิปรุ่นเก่าของจีนกันจริงๆ แล้ว จีนก็จะประกาศใช้มาตรการตอบโต้กับพวกผลิตภัณฑ์ของยุโรปอย่างแน่นอน” ถาน ห่าวจิว์น (Tan Haojun) นักเขียนที่ตั้งฐานอยู่ที่มณฑลเจียงซูผู้หนึ่ง แสดงความเห็นเอาไว้ในข้อเขียนชิ้นหนึ่ง [8] ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (7 ก.ค.) “ทั้งฝ่ายจีนและฝ่ายยุโรปต่างจะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างสาหัส”
ถาน ประมาณการว่า พวกกิจการของจีนจะต้องเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในต่างแดนที่โหดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เจตนารมณ์ของอียูที่จะกำราบกดขี่จีนเป็นสิ่งที่มองเห็นชัดขึ้นทุกที เขาเสนอว่าจีนควรทำให้ตลาดเพื่อการบริโภคของตนเติบโตขยายตัว เพื่อบรรลุผลในการสร้างให้เกิดการหมุนเวียนภายในประเทศ
ในอีกด้านหนึ่ง คริสตอฟ ฟูเกต์ (Christophe Fouquet) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เอเอสเอ็มแอล ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องจักรอุปกรณ์ทำชิป บอกว่า พวกผู้ซื้อชิป ซึ่งรวมไปถึงบรรดาผู้ผลิตรถยนต์เยอรมนีด้วย จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยชิปรุ่นเก่าที่จีนเป็นผู้ผลิต เขาพูดเช่นนี้ในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ฮันเดลสบลัตต์ (Handelsblatt) ของเยอรมนี [9] เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม
ความต้องการในชิปรุ่นเก่าของทั่วโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตื่นตาตี่นใจ ทว่าพวกผู้ผลิตชิปตะวันตกไม่ได้มีการลงทุนอย่างเพียงพอในภาคส่วนดังกล่าวนี้ ซึ่งมีอัตราผลกำไรไม่มากอะไร ฟูเกต์ ชี้
เขาบอกว่า ยุโรปไม่สามารถผลิตชิปรุ่นเก่าได้เพียงพอแม้สักครึ่งหนึ่งของที่ตนเองต้องการใช้ด้วยซ้ำไป และฝ่ายตะวันตกจึงควรต้องแสวงหาทางเลือกอื่นๆ หากต้องการที่จะชะลอการผลิตชิปรุ่นเก่าของจีนให้เชื่องช้าลง
เชิงอรรถ
[1] https://www.msn.com/en-gb/money/technology/exclusive-europe-seeks-industry-views-on-china-s-older-generation-chips/ar-BB1psADO?ocid=finance-verthp-feeds
[2] https://www.silicon.co.uk/workspace/components/eu-us-china-chip-557556#
[3] https://www.commerce.gov/news/press-releases/2023/12/commerce-department-announces-industrial-base-survey-american
[4] https://www.bis.doc.gov/index.php/documents/technology-evaluation/3402-section-9904-report-final-20231221/file
[5] https://www.eet-china.com/mp/a329098.html
[6] https://www.trendforce.com/presscenter/news/20231214-11959.html
[7] https://www.semiconductors.org/global-semiconductor-sales-increase-19-3-year-to-year-in-may/
[8]https://www.163.com/dy/article/J6G11FNQ0519B623.html
[9] https://finance.yahoo.com/news/asml-ceo-says-world-needs-100835456.html