เมื่อไบเดนอาการไม่ดี! ข่าวกรองสหรัฐฯ งัดมุกเดิม อ้างรัสเซียอยากเห็นทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

สหรัฐฯ ไม่พบเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปจากครั้งก่อนๆ ของรัสเซีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาในปีนี้ เกี่ยวกับตัวเลือกที่วังเครมลินชื่นชอบ จากคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองรายหนึ่งของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (9 ก.ค.) บ่งชี้ว่าเป็นอีกครั้งที่มอสโกอยากเห็น โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนรีพับลิกัน ได้รับชัยชนะและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอเมริกา

เจ้าหน้าที่รายนี้ ซึ่งบรรยายสรุปแก่พวกผู้สื่อข่าวในประเด็นความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่ได้เอ่ยชื่ออดีตประธานาธิบดี และว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันตรงๆ ตอนที่ถูกถามว่ามอสโกต้องหารเห็นใครเป็นประธานาธิบดีคนถัดไปของอเมริกา

อย่างไรก็ตาม เขาบ่งชี้ว่า รัสเซียนั้นชื่นชอบ ทรัมป์ โดยบอกว่าประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนคำประเมินจากศึกเลือกตั้งครั้งก่อน ซึ่งคำประเมินดังกล่าวพบว่ามอสโกดำเนินยุทธการพยายามก่ออิทธิพลต่อการหาเสียง เพื่อช่วยเหลือ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเหนือนางฮิลลารี คลินตัน ในปี 2016 และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2020

"เราไม่สังเกตพบการเปลี่ยนไปใดๆ ในตัวเลือกที่รัสเซียชื่นชอบ สำหรับศึกชิงชัยเก้าอี้ประธานาธิบดี จากศึกเลือกตั้งครั้งก่อนๆ สืบเนื่องจากบทบาทของสหรัฐฯ ในเรื่องเกี่ยวกับยูเครนและนโยบายอย่างกว้างๆ ที่มีต่อรัสเซีย" เจ้าหน้าที่จากสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ (ODNI)

ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

ทรัมป์ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ่อยครั้งต่อขอบเขตความช่วยเหลือด้านการทหารที่สหรัฐฯ มอบแก่ยูเครน โดยวอชิงตันมอบความช่วยเหลือแก่เคียฟไปแล้วคิดเป็นมูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ถูกรัสเซียรุกรานเต็มรูปแบบในปี 2022 ขณะเดียวกันก็เหน็บแนมประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกเขาว่าเป็น "เซลล์แมนที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา"

มีรายงานว่าคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ 2 คน นำเสนอแผนหนึ่งแก่ทรัมป์ สำหรับระงับความช่วยเหลือทางทหารที่มอบแก่ยูเครน จนกว่าจะยอมเปิดเจรจากับรัสเซียเพื่อยุติความขัดแย้ง

ในส่วนนโยบายที่มีต่อนาโต ทรัมป์ บอกว่าเขาจะยุให้รัสเซียทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการกับพันธมิตรชาติหนึ่งๆ ที่ไม่ใช้จ่ายเงินมากพอในด้านการป้องกันตนเองและเขาจะไม่ปกป้องประเทศนั้นๆ แม้บทบัญญัติมาตรา 5 ของนาโต ระบุไว้ว่า “การโจมตีหนึ่งในประเทศสมาชิกด้วยอาวุธ จะถือเป็นการโจมตีกลุ่มนาโตทั้งมวล"

เจ้าหน้าที่ ODNI ทำการบรรยายสรุปกับพวกผู้สื่อข่าว โดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม ร่วมกับเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ ของ ODNI และพวกเจ้าหน้าที่จากเอฟบีไอและสำนักงานประสานงานแห่งชาติเพื่อความยืดหยุ่นและความมั่นคงด้านโครงสร้างพื้นฐานอันสำคัญ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการมอบการป้องกันทางไซเบอร์แก่รัฐบาลและทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมเอกชน

เขาให้คำนิยามคำว่าก่ออิทธิพลเหนือการศึกเลือกตั้ง ว่าเป็นความพยายามกำหนดผลโพลต่างๆ เพื่อเป็นการชี้นำ หรือบ่อนทำลายกระบวนการประชาธิปไตย ขณะที่การแทรกแซงดังกล่าวถือว่าเป็นความพยายามกัดเซาะศักยภาพของสหรัฐฯ ในการจัดการเลือกตั้งอย่างเสรีและยุติธรรม

สหรัฐฯ ไม่ได้จับตามองประเทศไหนที่มีแผนลดระดับหรือก่อความปั่นป่วนต่อศักยภาพของอเมริกาในการจัดการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน แต่รัสเซียเริ่มต้นมันผ่านสื่อสังคมออนไลน์และหนทางอื่นๆ ในความพยายามก่ออิทธิพลต่อผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างเจาะจง โดยเฉพาะในรัฐสมรภูมิ (รัฐเหวี่ยง) "แพร่กระจายเรื่องเล่าที่สร้างความแตกแยกและดูหมิ่นพวกนักการเมืองอย่างเจาะจง" อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รายนี้ไม่ได้พาดพิงว่าเป็นใคร

"มอสโกกำหนดแล้วว่าผู้สมัครคนไหนที่เขามีความตั้งใจสนับสนุนหรือต่อต้าน ส่วนใหญ่อยู่บนพื้นฐานท่าทีของผู้สมัครรายนั้นๆ ต่อความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่สหรัฐฯ จะมอบแก่ยูเครนและประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง" เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าว "ทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ที่เราเคยเห็นมาก่อน เบื้องต้นผ่านความพยายามบนสื่อสังคมออนไลน์และแอบอ้างเป็นเสียงของผู้คนในสหรัฐฯ ขยายกระจายเรื่องเล่าของพวกเขา"

ในส่วนของจีนนั้น เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ ได้รับการประเมินว่าปัจจุบันไม่มีแผนก่ออิทธิพลใดๆ ต่อผลลัพธ์ของศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

(ที่มา : รอยเตอร์)