มาซูด เปเซซเคียน (Masoud Pezeshkian) ผู้สมัครสายกลางซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก คว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านรอบ 2 ตามรายงานของกระทรวงมหาดไทยวันนี้ (6 ก.ค.) และเตรียมก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำอิหร่านคนใหม่พร้อมกับคำมั่นสัญญา “เปิดประเทศ” และมอบ “เสรีภาพ” ที่ชาวอิหร่านใฝ่ฝันหา
“ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่ได้รับจากการโหวตเมื่อวันศุกร์ ทำให้ เปเซซเคียน กลายเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน” ถ้อยแถลงจากกระทรวงมหาดไทยอิหร่าน ระบุ
ศึกเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิประมาณ 50% และเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดสูสีระหว่าง เปเซซเคียน ซึ่งเป็นผู้สมัครสายกลางเพียงคนเดียวจากเดิมที่ยื่นใบสมัครเข้ามา 4 คน กับ ซาอีด จาลิลี (Saeed Jalili) อดีตผู้เจรจานิวเคลียร์สายแข็งของอิหร่านที่ชูนโยบายกระชับความสัมพันธ์กับรัสเซียและจีน
อิหร่านจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่ามีคนออกมาใช้สิทธิต่ำเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากชาวอิหร่านกว่า 60% ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ ตามหลังการจากไปอย่างกะทันหันของอดีตประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี ซึ่งถึงแก่กรรมในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
แม้การเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่อาจจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อนโยบายหลักของอิหร่าน ทว่าประธานาธิบดีก็มีบทบาทสำคัญในการเฟ้นหาบุคคลที่จะก้าวขึ้นมาแทนตำแหน่งของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำจิตวิญญาณสูงสุดที่มีอำนาจตัดสินชี้ขาดกิจการต่างๆ ของรัฐ และเวลาก็อายุ 85 ปีแล้ว
นักวิเคราะห์มองว่า จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ลดลงเรื่อยๆ ตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าฐานอำนาจของคณะผู้ปกครองทางศาสนาในอิหร่านกำลังสั่นคลอน และชาวอิหร่านเริ่มทนไม่ไหวกับสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงนโยบายจำกัดเสรีภาพทางสังคมและการเมืองที่พวกเขาเผชิญอยู่
ชัยชนะของ เปเซซเคียน อาจทำให้อิหร่านหันไปใช้นโยบายต่างประเทศที่เน้นปฏิบัติจริง (pragmatic foreign policy) มากขึ้น ช่วยลดความตึงเครียดในการเจรจากับกลุ่มชาติมหาอำนาจเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ปี 2015 ตลอดจนให้ความหวังในการเพิ่มเสรีภาพทางสังคม และความเป็นพหุในทางการเมืองของอิหร่าน
อย่างไรก็ดี ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจว่า เปเซซเคียน จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขผู้นี้เคยออกมาพูดชัดเจนต่อสาธารณชนว่า เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะ “เผชิญหน้า” กับคณะผู้นำศาสนาและพวกนักการเมืองสายเหยี่ยวที่กุมอำนาจในบ้านเมือง
“ฉันไม่ได้ออกมาโหวตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่สัปดาห์นี้ออกมาโหวตให้ เปเซซเคียน ฉันรู้ว่าเขาอาจจะเป็นประธานาธิบดีเป็ดง่อยก็ได้ แต่ก็ยังดีว่าได้พวกสายแข็งเข้ามา” อาฟาริน วัย 37 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยในเมืองอิสฟาฮาน ให้สัมภาษณ์
ที่มา : รอยเตอร์
