ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “ครูเค” เปิดร้านสอนสักคิ้ว-สักปาก หลอกชวนเหยื่อลงทุนอุปกรณ์สักต่างๆ เสียหายหกว่า 1 แสนบาท อ้างมีปัญหาการเงินช่วงโควิด
วันนี้ (23 เม.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ดำเนินการติดตามจับกุม น.ส.ปารย์พิชชา หรือครูเค อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 933/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง
สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ออกลาดตระเวนออนไลน์จนพบเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งถูกมิจฉาชีพในคราบช่างสักคิ้วระดับครู ย่านห้วยขวางตีสนิท หลอกให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์สักคิ้ว สักปาก ก่อนเชิดเงินหนีหายกว่า 1 แสนบาท โดยมีผู้เสียหายอีกหลายรายถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ทราบข้อมูลว่า ณ ปัจจุบันผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวมีหมายจับที่ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีในท้องที่ สน.ห้วยขวาง อยู่ 1 หมายจับ ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนีการสืบสวนจับกุม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สืบนครบาลสามารถจับกุมตัว น.ส.ปารย์พิชชา ได้ที่บริเวณหน้าบ้าน ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอย 2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
ในชั้นจับกุม น.ส.ปารย์พิชชา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเรียนจบการศึกษาระดับ ปวส. จากสถานบันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.มหาสารคาม เดิมทีตนมีกิจการเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตนเองในหลายพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนช่วงประมาณปี 2556 ตนได้ไปเรียนวิชาสักคิ้วกับอาจารย์ชื่อดังย่านดอนเมือง จนจบหลักสูตร ออกมาเปิดร้านสักคิ้วย่านดอนเมืองประมาณ 2 ปี ก่อนจะย้ายไปเปิดร้านสอนสักคิ้วแถวร่มเกล้า ก่อนจะมาเปิดร้านร่วมกันน้องที่รู้จักในย่านห้วยขวาง ซึ่งร้านนี้ตนเปิดแบบครบวงจรทั้งร้านเสริมสวย รับสักคิ้ว รับสอนสักคิ้วสักปากแดง ด้วยจนมีชื่อเสียงในย่านนั้น จนมีผู้สนใจมาร่วมลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์สักคิ้วสักปากต่างๆ แต่เนื่องจากตนประสบปัญหาทางการเงิน ประกอบกับช่วงนั้นสถานการณ์โรคโควิดระบาดอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้ธุรกิจล่ม ตนจึงขาดการติดต่อกับผู้เสียหายซึ่งร่วมลงทุน เป็นเหตุให้ถูกแจ้งความร้องทุกข์ ก่อนจะรู้ว่าตนเองมีหมายจับจึงได้หลบหนีไปอยู่บ้านพักของนายจ้างของแฟน ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า น.ส.ปารย์พิชชา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย 1. ปี 2555 เคยถูกจับกุมในความผิดฐานฉ้อโกง ท้องที่ สภ.เมืองมหาสารคาม 2. ปี 2556 เคยถูกจับกุมในความผิดฐานฉ้อโกง ท้องที่ สภ.เมืองมหาสารคาม 3. ปี 2557 เคยถูกจับกุมในความผิดฐานลักทรัพย์ ท้องที่ สน.ประเวศ และ 4. ปี 2565 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 933/2565 ลงวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง ท้องที่ สน.ห้วยขวาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.ปารย์พิชชา ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ