xs
xsm
sm
md
lg

พลิกขั้ว! พรรคแรงงานคว้าชัยถล่มทลายเลือกตั้งอังกฤษ ดัน ‘เคียร์ สตาร์เมอร์’ ขึ้นแท่นนายกฯ คนใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พรรคแรงงาน (เลเบอร์) ฝ่ายกลางซ้ายคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายในศึกเลือกตั้งรัฐสภาอังกฤษเมื่อวานนี้ (4 ก.ค.) ส่งผลให้ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) ผู้นำพรรคกลายเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ และเป็นจุดสิ้นสุดการบริหารประเทศภายใต้พรรคอนุรักษนิยม (คอนเซอร์เวทีฟ) ที่กินระยะเวลายาวนานถึง 14 ปี

จากผลการนับคะแนนที่ใกล้เสร็จสิ้นพบว่า พรรคแรงงานกวาดที่นั่ง ส.ส.ไปแล้วมากกว่า 326 จากทั้งหมด 650 ที่นั่งในสภาสามัญชน ขณะที่เอ็กซิตโพลคาดการณ์ว่าพรรคแรงงานอาจได้ ส.ส. มากถึง 410 ที่นั่ง


ในค่ำคืนที่น่าอับอายสำหรับนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก ปรากฏว่าพรรคอนุรักษนิยมได้ ส.ส. เพียงแค่ 70 ที่นั่ง และคาดว่าศึกเลือกตั้งคราวนี้จะเป็นความปราชัยครั้งใหญ่ที่สุดของพรรค หลังจากที่คนอังกฤษตัดสินใจหันหลังไม่ลงคะแนนให้ เนื่องจากเอือมระอากับปัญหาค่าครองชีพสูง บริการสาธารณะที่ด้อยประสิทธิภาพ และกรณีอื้อฉาวอีกมากมายที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของพรรค

“คืนนี้ประชาชนทั้งในสถานที่แห่งนี้และทั่วประเทศได้ออกมาพูดว่าพวกเขาพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง หยุดการเมืองที่เน้นการแสดง และหวนคืนสู่การเมืองที่มุ่งบริการเพื่อสังคม” สตาร์เมอร์ กล่าวประกาศชัยชนะหลังจากที่คว้าเก้าอี้ ส.ส. กรุงลอนดอนได้สำเร็จ

“การเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นขึ้นแล้วที่นี่ พวกท่านได้เลือกแล้ว และถึงเวลาที่พวกเราจะต้องทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้”

ด้านนายกฯ ซูแน็ก ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ และบอกว่าได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับ สตาร์เมอร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แม้พรรคแรงงานจะได้ชัยชนะแบบถล่มทลาย และผลสำรวจความคิดเห็นพบว่าคนอังกฤษเองยังไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นคาดหวังในตัว สตาร์เมอร์ และรัฐบาลพรรคแรงงานสักเท่าไหร่ อีกทั้ง สตาร์เมอร์ ก็จะต้องก้าวขึ้นกุมบังเหียนรัฐบาลในยามที่อังกฤษกำลังเผชิญวิกฤตท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอัตราภาษีที่พุ่งสูงสุดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หนี้สินสุทธิ (net debt) ที่มากพอๆ กับมูลค่าเศรษฐกิจรายปี (annual economic output) มาตรฐานการครองชีพที่ลดลง และบริการสาธารณะที่ด้อยประสิทธิภาพ โดยเฉพาะระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service - NHS) ที่ติดขัดจากปัญหาการหยุดงานประท้วง

สตาร์เมอร์ ให้สัญญาว่าจะยกเลิกนโยบายของรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมที่จะส่งผู้อพยพผิดกฎหมายที่ถูกปฏิเสธการขอลี้ภัยไปยัง “รวันดา” จนจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง แต่ขณะเดียวกัน ตัวเขาเองก็จะต้องหาวิธียับยั้งคลื่นผู้อพยพหลายพันคนที่ล่องเรือเล็กข้ามช่องแคบเข้ามายังอังกฤษ

สตาร์เมอร์ ยังรับปากว่าจะยกระดับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อแก้ไขปัญหาที่สืบเนื่องจากเบร็กซิต (Brexit) ท่ามกลางกระแสการเมืองฝ่ายขวาที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเขาเองจะไม่เห็นด้วยที่อังกฤษถอนตัวออกมา แต่การกลับเข้าร่วมอียูก็ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป

ว่าที่นายกฯ อังกฤษคนใหม่ยังต้องเตรียมตัวเตรียมใจทำงานร่วมกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” หากว่าเขาชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. นี้ แต่ สตาร์เมอร์ เคยประกาศจุดยืนแล้วว่ารัฐบาลอังกฤษที่มีเขาเป็นผู้นำจะยังคงให้การสนับสนุน “ยูเครน” ต่อไป

ที่มา : รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น