เอพี - ตะวันตกและชาติอาหรับพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้การโจมตีตอบโต้กันข้ามพรมแดนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ลุกลามกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ในตะวันออกกลาง โดยเตือนฮิซบอลเลาะห์อย่าประเมินตัวเองสูงเกินไป รวมทั้งอย่าหวังว่าจะมีประเทศใดสามารถหยุดยั้งอิสราเอลได้ หากยิวตัดสินใจบุกเลบานอนตามแผน
นักการทูตปัจจุบัน และอดีตนักการทูตชี้ว่า ขณะที่การเจรจาหยุดยิงในกาซาที่เป็นความหวังว่าจะโน้มน้าวให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่านยุติการโจมตีอิสราเอลหยุดชะงักลง นักการทูตอเมริกาและยุโรป ตลอดจนถึงเจ้าหน้าที่ชาติอื่นๆ จึงหันมาเตือนฮิซบอลเลาะห์ที่แข็งแกร่งกว่าฮามาสมากแต่ก็มั่นใจตัวเองมากเกินไปว่า ไม่ควรหวังพึ่งอเมริกาหรือประเทศอื่นใดให้หยุดยั้งอิสราเอล หากยิวตัดสินใจบุกเลบานอนตามแผนการที่เตรียมไว้ รวมทั้งไม่ควรหวังว่านักรบของตนเองจะรับมือสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้
สัปดาห์ที่ผ่านมา การโจมตีข้ามพรมแดนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธที่มีศักยภาพที่สุดในตะวันออกกลาง ดูเหมือนเบาลงซึ่งกระตุ้นความหวังว่า จะช่วยผ่อนคลายความกลัวเฉพาะหน้าที่ผลักดันให้อเมริกาต้องส่งเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกพร้อมกองกำลังนาวิกโยธินรบนอกประเทศไปสมทบกับเรือรบอื่นๆ ในบริเวณนั้นเพื่อป้องปรามไม่ให้ความขัดแย้งลุกลาม
อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์ ไฟเออร์สไตน์ อดีตนักการทูตอาวุโสในตะวันออกกลางของอเมริกา ตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนแน่นอนแล้วว่า อิสราเอลยังคงเตรียมพร้อมภายใต้การคาดการณ์ว่า จะเกิดความขัดแย้งบางรูปแบบในระดับความรุนแรงที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับความขัดแย้งในกาซา พร้อมเตือนฮิซบอลเลาะห์ไม่ให้ประเมินตัวเองสูงเกินไป
ทั้งนี้ หลังจากนักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปโจมตีในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามในกาซา ฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดเข้าสู่ดินแดนตอนเหนือของอิสราเอลพร้อมประกาศเดินหน้าโจมตีต่อจนกว่าจะมีการหยุดยิงในกาซา ทว่า อิสราเอลตอบโต้กลับ บีบให้พลเรือนนับหมื่นต้องอพยพหนีออกจากแนวพรมแดนของทั้งสองประเทศ
การโจมตีรุนแรงขึ้นในเดือนมิถุนายน หลังจากอิสราเอลสังหารผู้บัญชาการระดับสูงคนหนึ่งของฮิซบอลเลาะห์ และฮิซบอลเลาะห์ตอบโต้ด้วยขีปนาวุธหนึ่งในระลอกใหญ่สุด
มาร์ติน กริฟฟิธส์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เตือนว่า สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์อาจนำไปสู่ “วันสิ้นโลก”
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวระหว่างพบกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลที่ไปเยือนวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สงครามดังกล่าวจะเป็นหายนะสำหรับเลบานอน รวมทั้งยังอาจบานปลายเป็นสงครามระดับภูมิภาคได้อย่างง่ายดายและส่งผลร้ายแรงต่อตะวันออกกลาง
ด้านกัลแลนต์ตอบว่า อิสราเอลกำลังร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อบรรลุข้อตกลง แต่ก็จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไปพร้อมกัน
นักวิเคราะห์คาดว่า กลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในตะวันออกกลางที่เป็นพันธมิตรกับอิหร่านอาจตอบโต้รุนแรงกว่ากรณีการล้างแค้นแทนฮามาส และผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่า นักรบที่ถูกปลุกเร้าอาจหลั่งไหลเข้าร่วมกับฮิซบอลเลาะห์ ขณะที่ยุโรปกังวลว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะผลักดันให้เกิดคลื่นผู้ลี้ภัย
ไฟเออร์สไตน์เสริมว่า ถ้าอิสราเอลบุกเลบานอน และดูเหมือนเพลี่ยงพล้ำร้ายแรง อเมริกาจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าแทรกแซง
ส่วนอิหร่านนั้นแม้วุ่นวายกับการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองภายในประเทศและไม่แสดงทีท่าว่า ต้องการให้เกิดสงครามในตอนนี้ แต่ก็ถือว่าฮิซบอลเลาะห์เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญกว่าฮามาส ดังนั้น จึงอาจถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งเช่นเดียวกัน
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดหลังจากเมื่อวันเสาร์ (29 มิ.ย.) คณะทูตอิหร่านประจำยูเอ็นโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า จะเกิดสงคราม “ทำลายล้าง” ถ้าอิสราเอลเปิดฉากโจมตีในเลบานอนเต็มรูปแบบ และอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศยิว ตอบกลับว่า อิสราเอลจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดจัดการกับฮิซบอลเลาะห์จนกว่าจะหยุดโจมตีข้ามพรมแดน
พล.อ.ซีคิว บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่า แม้วอชิงตันช่วยอิสราเอลสกัดฝูงโดรนและขีปนาวุธของอิหร่าน แต่คงยากที่จะสกัดจรวดพิสัยใกล้ที่ฮิซบอลเลาะห์โจมตีข้ามพรมแดน
กองทัพอิสราเอลตรากตรำทำสงครามในกาซามานานเกือบ 9 เดือนจนถึงขณะนี้ แต่ยังประกาศว่าจะทำลายเลบานอนให้ราบเป็นหน้ากลองเหมือนกาซา ถ้าเกิดสงครามเต็มรูปแบบขึ้น ขณะที่ฮิซบอลเลาะห์ถูกคาดหมายว่า มีจรวดและขีปนาวุธราว 150,000 ลูกที่สามารถโจมตีเป้าหมายทั่วอิสราเอล
ทั้งอเมริกา ฝรั่งเศสในฐานะอดีตเจ้าอาณานิคมของเลบานอน และประเทศยุโรปอื่นๆ รวมถึงกาตาร์ และอียิปต์ ต่างล้มเหลวในการพยายามไกล่เกลี่ยอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ให้ยุติการโจมตีตอบโต้กัน
ทำเนียบขาวโทษฮิซบอลเลาะห์ว่า ทำให้สถานการณ์ลุกลาม และประกาศสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง แต่สำทับว่า การเปิดศึกสองด้านไม่เป็นผลดีกับอิสราเอลเอง