เอเอฟพี - ทหารอิสราเอล 8 นายเสียชีวิตระหว่างการสู้รบกับนักรบปาเลสไตน์ทางใต้ของกาซาเมื่อวันเสาร์ (15 มิ.ย.) ถือเป็นความสูญเสียใหญ่อีกครั้งของกองทัพยิว ขณะที่ยูเอ็นระบุว่า มีประชาชนอพยพออกจากราฟาห์นับจากเดือนที่แล้วถึงตอนนี้ 1 ล้านคน
กองทัพอิสราเอลเผยว่า ทหารเหล่านั้นเสียชีวิตหลังจากยานยนต์หุ้มเกราะเนมเมอร์ที่นั่งมาระเบิดใกล้เมืองราฟาห์ที่อยู่ใต้สุดของฉนวนกาซา บริเวณที่มีการสู้รบดุเดือดกับนักรบปาเลสไตน์ โดยแรงระเบิดสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อรถและทหารที่อยู่ในรถ ทำให้ยากต่อการระบุตัวตน
แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงว่า เห็นได้ชัดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากระเบิดที่ฝังอยู่ในบริเวณดังกล่าวหรือขีปนาวุธต่อต้านรถถัง
การสูญเสียเมื่อวันเสาร์ถือเป็นหนึ่งในการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพอิสราเอลนับตั้งแต่เปิดฉากบุกภาคพื้นดินเข้าสู่กาซาเมื่อวันที่ 27 ต.ค. โดยขณะนี้มีทหารเสียชีวิตรวม 306 นาย
เหตุการณ์ที่มีทหารอิสราเอลเสียชีวิตมากที่สุดคือเมื่อวันที่ 22 ม.ค. เมื่อรถถังที่จอดอยู่ใกล้อาคารสองแห่งที่ทหารกำลังเตรียมระเบิดถูกยิงด้วยจรวดอาร์พีจี ส่งผลให้ทหารเสียชีวิต 21 นาย
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวสดุดีทหารที่เสียชีวิต ก่อนสำทับว่า แม้ต้องจ่ายราคาแพง แต่อิสราเอลจะต้องบรรลุเป้าหมายของสงคราม
ขณะเดียวกัน ในการชุมนุมประท้วงการจัดการสงครามของรัฐบาลอิสราเอลที่เทลอาวีฟในวันเสาร์ ผู้ประท้วงคนหนึ่งบอกว่า โกรธและผิดหวังมาก และเชื่อว่า รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพ จึงสมควรจัดการเลือกตั้งใหม่ทันที
ที่ราฟาห์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า มีการปะทะระหว่างนักรบปาเลสไตน์กับกองกำลังอิสราเอลทางตะวันตกของเมือง และมีการยิงปืนใหญ่โจมตีค่ายผู้ลี้ภัยกลางเมือง ขณะที่ภาพจากเอเอฟพีทีวีเผยให้เห็นถนนหลายสายไร้ผู้คน
สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ประชาชนราว 1 ล้านคนอพยพออกจากราฟาห์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองนี้เพื่อไล่ล่าฮามาส
ในกาซาซิตี้ทางเหนือของกาซา หน่วยงานป้องกันฝ่ายพลเรือนรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 10 คนในบ้าน 3 หลังที่ถูกอิสราเอลโจมตี
ความกังวลว่า สงครามกาซาจะลุกลามถูกปลุกเร้าอีกครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่มีการโจมตีตอบโต้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนซึ่งเป็นพันธมิตรของฮามาส
ฮิซบอลเลาะห์ประกาศว่า การโจมตีหนักหน่วงเมื่อวันพุธ (12 มิ.ย.) เป็นการล้างแค้นที่อิสราเอลสังหารหนึ่งในผู้บัญชาการของกลุ่ม และอิสราเอลตอบโต้กลับด้วยปืนใหญ่ รวมทั้งประกาศโจมตีทางอากาศต่อโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ตลอดแนวพรมแดน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเอ็น 2 คนในเลบานอนออกแถลงการณ์ให้ทุกฝ่ายหยุดยิง โดยเตือนว่า อันตรายจากการคำนวณผิดพลาดที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งในวงกว้างทันทีจะกลายเป็นความจริง
ในส่วนความพยายามผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในกาซานั้น แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนตะวันออกกลางเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดในการยุติความรุนแรงระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลคือ การแก้ไขความขัดแย้งและการหยุดยิงในกาซา ซึ่งยังคงไม่เกิดขึ้นจริงโดยฮามาสเรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารทั้งหมดออกจากกาซาและหยุดยิงถาวร ซึ่งทางอิสราเอลยืนกรานปฏิเสธ ทั้งนี้ บลิงเคนระบุว่า อิสราเอลสนับสนุนแผนการล่าสุด แต่เนทันยาฮูยังไม่เคยออกมารับรองแผนการนี้อย่างเปิดเผย
ขณะเดียวกัน คาร์ล สโก รองผู้อำนวยการบริหารองค์การอาหารโลกเตือนหลังจากเดินทางเยือนกาซานาน 2 วันว่า สภาพไร้กฎหมายภายในกาซาและความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ทำให้เกือบเป็นไปไม่ได้ในการจัดส่งความช่วยเหลือทางบกเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกาซา และสำทับว่า เหนือสิ่งอื่นใด ประชาชนต้องการให้สงครามยุติลง
ทางด้านกองทัพสหรัฐฯ เผยว่า ต้องย้ายท่าเรือที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่กาซาไปยังท่าเรืออิสราเอลชั่วคราวเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุนสูง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) ผู้นำกลุ่มจี7 เรียกร้องให้เปิดทางจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นเข้าสู่กาซาอย่างรวดเร็วและปราศจากอุปสรรค
