รัฐบาลจีนแถลงในวันพฤหัสบดี (13 มิ.ย.) เรียกร้องให้สหภาพยุโรปทบทวนแผนรีดภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากแดนมังกร และถึงแม้ย้ำว่าควรต้องคลี่คลายการปีนเกลียวกันทางการค้าคราวนี้ด้วยการเจรจากัน แต่ก็เตือนอย่าได้หลงเดินทางผิด เพียงเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ของตัวเอง ทั้งนี้หลังจากที่อียูได้ประกาศมาตรการขึ้นภาษีรถอีวีจีนสูงสุดในอัตรา 38.1% โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป
จีนยังประกาศจะใช้มาตรการตอบโต้ทุกๆ อย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ภายหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียู ประกาศแผนขึ้นภาษีดังกล่าวในวันพุธ (12)
“เราเรียกร้องอียูให้เงี่ยหูฟังด้วยความระมัดระวัง ถึงบรรดาเสียงที่ปลอดอคติและมีเหตุมีผลซึ่งดังออกจากทุกๆ ส่วน ทุกๆ แวดวงแห่งชีวิต แล้วแก้ไขการปฏิบัติที่ผิดพลาดของตนในทันที ยุติการทำให้ประเด็นด้านเศรษฐกิจและการค้ากลายเป็นเรื่องทางการเมือง และจัดการกับการปีนเกลียวกันทางเศรษฐกิจและทางการค้าอย่างถูกต้องเหมาะสมโดยผ่านการสนทนากันและการปรึกษาหารือกัน” หลิน เจียน โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามปกติของกระทรวงในวันพฤหัสบดี (13)
ขณะที่ เหอ หยาตง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวในการแถลงข่าววันเดียวกันว่า จีนสงวนสิทธิในการยื่นฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) และใช้มาตรการที่จำเป็นทุกๆ อย่างเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบรรดาบริษัทจีนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
เขาประณามความเคลื่อนไหวของอียูคราวนี้ว่า ปราศจาก “พื้นฐานทั้งทางข้อเท็จจริงและทางกฎหมาย” และบอกว่ามันไม่เพียงสร้างความเสียหายให้แก่สิทธิและผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจีนเท่านั้น แต่ยังจะเป็นการบิดเบือนการผลิตและห่วงโซ่อุปทานด้านรถยนต์ในตลอดทั่วโลก ซึ่งก็รวมถึงในอียูเองด้วย
“การกระทำนี้ของฝ่ายยุโรปน่าสงสัยว่าเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ของ WYO และเป็นพฤติการณ์แบบนักลัทธิกีดกันการค้าอย่างโจ่งแจ้ง” เขาสำทับ
คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งได้รับผลสอบสวน 3 บริษัทรถยนต์อีวีของจีนมีพฤติการณ์ได้รับการอุดหนุนอย่างไม่ยุติธรรมจากภาครัฐแดนมังกร จนก่อภัยคุกคามที่จะสร้างความเสียหายให้แก่พวกผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของอียู ได้เสนอในวันพุธให้ขึ้นภาษีศุลกากรชั่วคราวจากผู้ผลิตจีนทั้ง 3 ราย นั่นคือ 17.4% จากรถซึ่งผลิตโดยบีวายดี 20% จากจีลี่ และ 38.1% จากบริษัทเอสเอไอซี
อัตราภาษีนำเข้านี้จะบังคับใช้ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. และจะใช้ไปตลอดตั้งแต่เดือน พ.ย. เว้นแต่พวกรัฐอียูซึ่งเป็นเสียงข้างมากที่มีคุณภาพ ซึ่งหมายถึงการที่มีชาติอียูอย่างน้อย 15 ชาติที่รวมกันแล้วเป็นตัวแทนของประชากรอย่างน้อย 65% ในอียู โหวตคัดค้านความเคลื่อนไหวเรื่องนี้
อัตราภาษีศุลกากรที่อียูประกาศจัดเก็บคราวนี้ แม้ถือว่าสูง แต่ยังต่ำกว่ามากจากอัตรา 100% ซึ่งสหรัฐฯ บังคับกับรถอีวีจีนำเข้าเมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ปฏิกิริยาทั้งที่ออกมาจากจีนและจากฝ่ายอื่นๆ ซึ่งพัวพันอยู่ในการพิพาทนี้ รวมไปถึงพวกผู้ผลิตรถยุโรปและผู้ผลิตรถจีน ต่างชี้ไปทางที่ว่าพวกเขาคัดค้านอย่างชัดเจนต่อการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการยุโรปนี้ และมีความกระตือรือร้นที่จะลดความร้อนแรงของสถานการณ์
ในบทวิจารณ์ที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน ระบุว่า อียูดูเหมือนเหลือช่องทางบางอย่างบางประการเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถปรึกษาหารือกันต่อไป ในการหาทางออกและหลีกเลี่ยงฉากทัศน์อันเลวร้ายที่สุด
ความเคลื่อนไหวของอียูแทบไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบรรดาค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจีน เพราะเป็นสิ่งที่คาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว โดยราคาหุ้น BYD ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ช่วงปิดการซื้อขายในวันพฤหัสบดีขยับขึ้นไป 5.8%
“อัตราภาษีที่อียูประกาศออกจะให้ผลในเชิงบวกกับบีวายพีด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับที่เราคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะสูงถึง 30% และนั่นทำให้ภาพรวมการส่งออกของบีวายพี ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น” รายงานของซิตี้ ระบุ
ราคาหุ้นของจีลี่ ออโต ขยับพุ่ง 1.7% และลีป มอเตอร์ เพิ่ม 2.7% ขณะที่หุ้นเกรตวอลล์ มอเตอร์ ในฮ่องกง ปิดลดลง 1.2% และหุ้นของเอสเอไอซี มอเตอร์ ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ปรับตัวลดลง 1.6%
ในทางกลับกัน ราคาหุ้นค่ายยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของยุโรปซึ่งมีจีนเป็นตลาดใหญ่กลับดิ่งลงในวันพุธ (12) สืบเนื่องจากความกังวลว่าจีนอาจจะใช้มาตรการแก้แค้น
แม้ว่าค่ายรถยุโรปจะต้องเผชิญความท้าทายจากรถอีวีราคาถูกสัญชาติจีนที่หลั่งไหลเข้าสู่ภูมิภาค ทว่ามาตรการรีดภาษีของอียูกลับไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์สักเท่าไร
บรรดาค่ายรถเยอรมนีนั้นต้องพึ่งยอดขายในจีนมากเป็นพิเศษ และเกรงว่าจะถูกปักกิ่งเล่นงานแก้แค้น ขณะที่ค่ายรถยุโรปหลายๆ เจ้าก็นำเข้ารถยนต์ของตัวเองที่ผลิตในจีนเช่นกัน
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)
