ผู้ประท้วงสนับสนุนปาเลสไตน์หลายพันคน จัดการชุมนุมใกล้ทำเนียบขาวเมื่อวันเสาร์ (8 มิ.ย.) ส่งเสียงโกรธแค้นต่อสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าท่าทีให้อภัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อปฏิบัติการทางทหารนองเลือดของอิสราเอลในฉนวนกาซา
พวกผู้ประท้วงพากันตะโกนว่า "จากดีซี จนถึงปาเลสไตน์ พวกเราอยู่ ณ เส้นตาย" พร้อมกับชูป้ายข้อความยาวเหยียดที่เขียนรายชื่อชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารโดยกองกำลังอิสราเอล ท่ามกลางการสู้รบที่ลากยาวเข้าสู่เดือนที่ 9 แล้ว
ไบเดน ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการตี 2 หน้า ต่อการกระทำของอิสราเอล พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาสในกาซา
เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ทำเนียบขาวเคยบอกว่าปฏิบัติการโจมตีนองเลือดของอิสราเอลเล่นงานเมืองราฟาห์ ไม่ได้ข้ามเส้นตาย ที่ดูเหมือนว่า ไบเดน ได้ขีดไว้ก่อนหน้านั้น 2 เดือน ครั้งที่ถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะเปิดฉากบุกเมืองทางใต้ของกาซาแห่งนี้
ก่อนหน้านั้น ไบเดนออกมาส่งคำเตือนแรงๆ ถึงอิสราเอล ว่าสหรัฐฯ จะเลิกส่งอาวุธช่วย หากกองทัพยิวเปิดปฏิบัติการโจมตีเต็มรูปแบบที่เมืองราฟาห์ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์นับล้านๆ คน
ไบเดน ออกมาห้ามปรามซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ให้กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากบุกทางภาคพื้นเข้าไปยังราฟาห์ จนกว่าจะมีแผนอย่างละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับพลเรือนปาเลสไตน์นับล้านคนที่เข้าไปหลบภัยในเมืองดังกล่าว
"ผมไม่เชื่อคำพูดใดๆ ของโจ ไบเดน" ซาอิด มาห์ดอวี ผู้ประท้วงวัย 25 ปี จากเวอร์จิเนีย กล่าว โดยเขามีพ่อแม่เป็นคนปาเลสไตน์ "เส้นตายในคำพูดของเขานั้นเป็นแค่ขยะ มันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นพวกหน้าซื่อใจคด และขี้ขลาดตาขาว"
ส่วน ทาลา แม็คคินนีย์ ผู้ช่วยพยาบาลวัย 25 ปี บอกว่า "ฉันคิดว่าเราทุกคนล้วนหวังว่ามันจะหยุดลงเร็วๆ นี้ แต่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีของเราไม่ทำตามคำพูดในสิ่งที่เขาพูดกับประเทศของเรา มันน่าโมโหมาก"
ผู้ประท้วงซึ่งเกือบทุกคนสวมเสื้อสีแดง พากันโบกธงปาเลสไตน์และตะโกนด่าทอว่า "เส้นตายของไบเดน เป็นแค่คำโกหก" และ "การทิ้งบอมบ์ใส่เด็กๆ ไม่ใช่การป้องกันตนเอง"
ทำเนียบขาวยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้วยการเพิ่มเติมแนวรั้วรวดหนามก่อนหน้าการประท้วง ซึ่งพบเห็นรถบัสเช่าเหมาคันขนผู้คนมาจากรัฐต่างๆ ไกลสุดคือรัฐเมน และรัฐฟลอริดา
5 เดือนก่อนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่เขาต้องต่อสู้กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ตัวแทนจากรีพับลิกัน ไบเดน กำลังเผชิญแรงกดดันให้หาทางรักษาฐานเสียงชาวมุสลิมและคนหนุ่มสาว ที่ถูกมองว่ามีความสำคัญยิ่งที่จะนำพาเขากลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกสมัย
ความเคลื่อนไหวประท้วงที่ทำเนียบขาวมีขึ้นในขณะที่สำนักงานฝ่ายสื่อสารมวลชนของรัฐบาลฮามาส เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 210 คน ในวันเสาร์ (8 มิ.ย.) ในเหตุอิสราเอลโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่งในแถบตอนกลางของกาซา บริเวณที่ตัวประกัน 4 คนได้รับการช่วยเหลือออกมา
"จำนวนเหยื่อจากการสังหารหมู่ของผู้รุกรานอิสราเอล ในแคมป์ Nuseira เพิ่มขึ้นเป็น 210 คน และมากกว่า 400 คนได้รับบาดเจ็บ" ถ้อยแถลงระบุ ปฏิบัติการครั้งนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพอิสราเอล เปิดเผยว่า สามารถช่วยเหลือตัวประกันชาวอิสราเอล 4 คน ในแคมป์ Nuseira ในตอนเช้าวันเสาร์ (8 มิ.ย.)
ในเวลาต่อมา กองทัพเปิดเผยชื่อตัวประกันเหล่านั้น ได้แก่ โนอา อาร์กามานี วัย 25 ปี อัลมอก เมียร์ ยาน วัย 21 ปี อันเดรย์ คอซลอฟ วัย 27 ปี และชโลมี ซิฟ วัย 40 ปี
กองทัพระบุในถ้อยแถลงเพิ่มเติมว่า ทั้ง 4 คนถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสลักพาตัวไปจากเทศกาลดนตรีโนวาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม และตอนนี้ทั้ง 4 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจสุขภาพแล้ว เบื้องต้นทราบว่าพวกเขามีอาการปกติดีทั้งหมด
(ที่มา : เอเอฟพี)
