นายกรัฐมนตรี โรเบิร์ต ฟิโก แห่งสโลวะเกีย ซึ่งถูกคนร้ายพยายามลอบสังหารด้วยการใช้ปืนจ่อยิงอย่างอุกอาจระหว่างประชุม ครม.สัญจรเมื่อวันพุธ (15 พ.ค.) ล่าสุดอาการ “พ้นขีดอันตราย” แล้ว ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีรายหนึ่ง
ฟิโก วัย 59 ปี ถูกคนร้ายสาดกระสุนใส่ทั้งหมด 5 นัด ซึ่งทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส และถูกนำส่งโรงพยาบาลผ่าตัดด่วนในช่วงค่ำวันพุธ (15)
“ผมช็อกมาก... แต่โชคดีเท่าที่ผมรู้การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี และผมเชื่อว่าท้ายที่สุดท่านจะปลอดภัย ตอนนี้อาการของท่านพ้นขีดอันตรายแล้ว” โทมัส ทาราบา รองนายกฯ และรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมสโลวะเกีย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Newshour ของ BBC
ทาราบา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กระสุนนัดหนึ่งเจาะเข้าที่ท้องของ ฟิโก ส่วนอีกนัดโดนบริเวณข้อต่อ
ด้านสำนักข่าว Aktuality.sk อ้างแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนามอีกคนที่ยืนยันว่า ฟิโก อาการอยู่ในขั้น “คงที่” (stable)
ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง โรเบิร์ต คาลินัค รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสโลวะเกีย ระบุในงานแถลงข่าวว่า ฟิโก มีอาการ “บาดเจ็บรุนแรงที่อวัยวะภายในหลายระบบ” (serious polytrauma) เนื่องจากโดนยิงเข้าไปหลายนัด ขณะที่ มาตุส ซูตาจ เอสต็อก รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ก็พูดเช่นกันว่าอาการของ ฟิโก ขณะถูกนำส่งเข้าห้องผ่าตัดอยู่ในภาวะ “เป็นตายเท่ากัน”
ซูตาจ เอสต็อก ยังบอกด้วยว่า “ความพยายามลอบสังหารครั้งนี้มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง และผู้ก่อเหตุตัดสินใจลงมือหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือน เม.ย.” ซึ่ง ปีเตอร์ เปเยกรีนี (Peter Pellegrini) ผู้ซึ่งเป็นพันธมิตรของ ฟิโก ได้รับชัยชนะ
ความพยายามลอบสังหาร ฟิโก เกิดขึ้นที่เมืองฮันด์โลวา (Handlova) ทางตอนกลางของสโลวะเกีย ขณะที่สื่อรายงานว่าคนร้ายเป็นชายวัย 71 ปี และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความสะเทือนขวัญต่อคนในประเทศ รวมถึงเรียกเสียงประณามจากผู้นำทั่วโลก เนื่องจากสโลวะเกียเป็นรัฐสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) รวมถึงสหภาพยุโรป (อียู) และมีประวัติเกิดความรุนแรงทางการเมืองน้อยมาก
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย รวมถึงประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และบรรดาผู้นำชาติยุโรปต่างแสดงความตกตะลึง และแถลงประณามความพยายามลอบสังหารครั้งนี้
ภายหลังถูกลอบยิง ฟิโก ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลในเมืองฮันด์โลวาซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุม ครม.สัญจร ก่อนจะถูกส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมือง Banska Bysterica ซึ่งเป็นเมืองเอกประจำภูมิภาคเพื่อรับการผ่าตัดด่วน เนื่องจากอาการของเขาในตอนนั้นสาหัสมากจนไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลในกรุงบราติสลาวาได้
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า เขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดหลังจากที่ ฟิโก เดินออกจากอาคารที่ประชุมและเข้าไปจับมือทักทายประชาชนที่ไปรอต้อนรับ จากนั้นตำรวจก็พุ่งเข้าไปกดชายคนหนึ่งลงกับพื้น
สื่อสโลวะเกียระบุว่า คนร้ายเป็นอดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็น “กวี” ที่เคยมีผลงานมาแล้ว 3 ชุด และเป็นสมาชิกสมาคมนักเขียนแห่งสโลวะเกียด้วย
สำนักข่าว Aktuality.sk อ้างคำพูดของลูกชายมือยิงซึ่งบอกว่า พ่อของเขามีใบอนุญาตพกปืนถูกกฎหมาย “แต่ผมไม่รู้จริงๆ ว่าพ่อมีเจตนาอะไร เขามีแผนการอะไร และเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
สโลวะเกียซึ่งมีประชากรราว 5.4 ล้านคนเริ่มเผชิญความแตกแยกเห็นต่างทางการเมืองรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และตั้งแต่กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัยเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ฟิโก ก็ปรับเปลี่ยนนโยบายต่างๆ อย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็นการลดสนับสนุนยูเครน หันไปเปิดการเจรจาพูดคุยกับรัสเซียมากขึ้น พยายามลดอัตราโทษในคดีคอร์รัปชัน และยกเลิกสำนักงานอัยการพิเศษ เป็นต้น
ฟิโก ยังออกมาวิจารณ์การทำงานของสื่อกระแสหลักในสโลวะเกีย และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อบางสำนัก ขณะที่สมาชิกพรรคของเขาก็ออกมาโจมตีสื่อและการกระทำของพวกฝ่ายค้านในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ที่มา : รอยเตอร์