ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์ (13 พ.ค.) จากสัญญาอุปสงค์ฟื้นตัวในสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบและทองคำปรับลดราว 1% นักลงทุนพักหายใจหายคอ ก่อนหน้าเผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 79.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 83.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากความคาดหมายอุปสงค์เบนซินแข็งแกร่งในสหรัฐฯ หลังจากทางกลุ่มยานยนต์ AAA คาดการณ์ว่ากิจกรรมการเดินทางในช่วงวันเมโมเรียล เดย์ น่าจะแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2005 ด้วยการสัญจรบนท้องถนนอาจสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (13 พ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนพักหายใจหายคอ หลังดีดตัวขึ้นมา 3 สัปดาห์ติด ขณะเดียวกันก็เฝ้ารอข้อมูลสำคัญทั้งตัวเลขเงินเฟ้อและรายงานผลประกอบการบริษัทที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์นี้
ดาวโจนส์ ลดลง 81.33 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,431.51 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.26 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,221.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.37 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,388.24 จุด
ผลสำรวจหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่เผยแพร่ในวันจันทร์ (13 พ.ค.) พบว่าชาวอเมริกามองว่าเงินเฟ้อในอีก 1 ปีนับตั้งแต่นี้น่าจะอยู่ที่ราว 3.3% จากระดับ 3% ในเดือนมีนาคม พร้อมคาดหมายว่าเงินเฟ้อในช่วง 3 ปี นับจากนั้นอาจลดลงมาเพียงเล็กน้อยอยูที่ระดับ 2.8%
ข้อมูลในผลสำรวจดังกล่าวมีขึ้นตามหลังรายงานฉบับหนึ่งของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (10 พ.ค.) พบว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากภาคครัวเรือนมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่พุ่งสูง
นักลงทุนจับตาไปที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนเมษายน ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธ (15 พ.ค.) เช่นเดียวกับดัชนีราคาผู้ผลิต ตัวเลขค้าปลีก จำนวนผู้เข้ารับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์และรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง โฮม ดีโปต์ และวอลมาร์ท ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้
ส่วนราคาทองคำปรับลดในวันจันทร์ (13 พ.ค.) นักลงทุนขายทำกำไร ก่อนหน้ามีการเผยแพร่ข้อมูลเงินเฟ้ออันสำคัญที่จะให้เงื่อนงำเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในปีนี้ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 32.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,343.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)