น้ำมันขึ้นจากคลังปิโตรเลียมสหรัฐฯ ทองคำปรับลด-หุ้นมะกันปิดผสมผสาน

ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพุธ (8 พ.ค.) หลังข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสานและทองคำทรงตัว นักลงทุนยังคงพุ่งเป้าให้ความสำคัญไปที่แนวโน้มนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ ปิดที่ 78.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 83.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (8 พ.ค.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 459.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้เล็กน้อย บ่งชี้ถึงอุปสงค์แข็งแกร่ง

อย่งไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นไม่มากนัก จากการแข็งค่าของดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของอเมริกาจะมีผลงานที่ดีกว่าชาติอื่นๆ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้น้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ และจะบั่นทอนอุปสงค์ทางพลังงาน

ดอลลาร์ที่แข็งค่าและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ฉุดให้ราคาทองคำในวันพุธ (8 พ.ค.) แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,322.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (8 พ.ค.) ปิดผสมผสาน ดาวโจนส์ปรับขึ้น 6 วันติดต่อกันและปิดเหนือ 39,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ นักลงทุนยังคงเดิมพันว่านโยบายการเงินของเฟดจะให้การสนับสนุนตลาด

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 172.13 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,056.39 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.03 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,187.67 จุด แนสแดค ลดลง 29.80 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,302.76 จุด

การดีดตัวของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ กัดเซาะมุมมองในแง่ดีที่เกิดจากรายงานผลประกอบการในทางบวกของบริษัทต่างๆ อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานที่อ่อนแอเกินคาดหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ช่วยบรรเทาความกังวลว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน

จากรายงาน FedWatch Tool ของ CME Group นักลงทุนคาดหมายว่ามีโอกาส 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 25% ในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นจากระดับ 54% ของหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้

(ที่มา : รอยเตอร์)