ราคาน้ำมันขยับลงและวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆ ในวันอังคาร (26 มี.ค.) นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้ออันสำคัญที่จะบ่งชี้ถึงกรอบเวลาในการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ทองคำดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากในวันจันทร์ (25 มี.ค.)
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 33 เซนต์ ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 86.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน น้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์ (25 มี.ค.) หลังรัสเซียออกคำสั่งให้บริษัทต่างๆ ลดกำลังผลิตน้ำมันในช่วงไตรมาส 2 เพื่อรับประกันว่าจะเหลือกำลังผลิตตามเป้าหมาย 9 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน ตามกรอบที่เคยรับปากไว้กับโอเปกพลัส
อย่างไรก็ตาม การซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเชียบในวันอังคาร (26 มี.ค.) นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลสำคัญที่จะให้เบาะแสแบบเจาะลึกว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่อยครั้งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ทางพลังงาน
ปัจจัยนี้เองที่ผลักให้ราคาทองคำในวันอังคาร (26 มี.ค.) ปรับขึ้นต่อเนื่องจากวันจันทร์ (25 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 2,177.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (26 มี.ค.) แกว่งตัวลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย ก่อนปิดในกรอบแคบๆ นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่มีวันหยุด สำหรับใคร่ครวญแนวโน้มเส้นทางนโยบายดอกเบี้ยของเฟด
ดาวโจนส์ ลดลง 31.31 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,282.33 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 14.61 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,203.58 จุด แนสแดค ลดลง 68.77 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,315.70 จุด
โฟกัสหลักของนักลงทุนยังคงเป็นดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) อันเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ (29 มี.ค.) อย่างไรก็ตามในวันดังกล่าวตลาดจะปิดทำการเนื่องในวันหยุดกู้ดฟรายเดย์
คาดหมายว่าดัชนีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ และ 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมสินค้าในหมวดอาหารและพลังงานที่มีความผันผวน คาดหมายว่าจะดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ที่ระดับ 2.8%
(ที่มา : รอยเตอร์)