เศษซากต่างๆ จากขีปนาวุธลูกหนึ่งที่พุ่งใส่เมืองคาร์คิฟของยูเครน เมื่อวันที่ 2 มกราคม มาจากขีปนาวุธซีรีส์ฮวาซอง-11 ของเกาหลีเหนือ จากคำกล่าวอ้างของหน่วยเฝ้าระวังมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันจันทร์ (29 เม.ย.)
ในรายงาน 32 หน้า คณะผู้เฝ้าจับตามาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ สรุปว่า "เศษซากที่กู้มาจากขีปนาวุธลูกหนึ่งที่ตกในคาร์คิฟ ยูเครน เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2024 มาจากขีปนาวุธซีรีส์ฮวาซอง-11 ของเกาหลีเหนือ และมันเป็นการละเมิดมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานเกาหลีเหนือ"
เกาหลีหนืออยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ สำหรับโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของพวกเขา มาตั้งแต่ปี 2006 และมาตรการเหล่านี้ถูกยกระดับความหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ในคณะผู้เฝ้าระวังมาตรการคว่ำบาตร 3 คน เดินทางไปยังยูเครน เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบเศษซากดังกล่าว และไม่พบหลักฐานว่าขีปนาวุธนั้นผลิตโดยรัสเซีย อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าขีปนาวุธดังกล่าวยิงมาจากไหนหรือยิงโดยฝีมือใคร
"ข้อมูลเกี่ยวกับวิถีที่ได้รับมอบจากพวกเจ้าหน้าที่ยูเครน บ่งชี้ว่ามันถูกยิงภายในดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย" หน่วยเฝ้าระวังมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติเขียนในรายงานที่ส่งถึงคณะกรรมการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 25 เมษายน
"ตำแหน่งดังกล่าวถ้าขีปนาวุธอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังรัสเซีย บางทีมันอาจบ่งชี้ว่าเป็นการจัดซื้อมาโดยพลเมืองของสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งมันจะเป็นการละเมิดมาตรการปิดล้อมทางอาวุธที่กำหนดเล่นงานเกาหลีเหนือในปี 2006" รายงานระบุ
คณะผู้แทนรัสเซียและเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติในนิวยอร์ก ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว
สหรัฐฯ และชาติอื่นๆ กล่าวหาเกาหลีเหนือ ถ่ายโอนอาวุธให้แก่รัสเซีย เพื่อใช้เล่นงานยูเครน ชาติเพื่อนบ้านที่มอสโกเปิดฉากรุกรานมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 อย่างไรก็ตาม ทั้งมอสโกและเปียงยางปฏิเสธคำกล่าวหานี้ แต่ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่าจะยกระดับความสัมพันธ์ด้านการทหารแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ณ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียยิงขีปนาวุธที่จัดหาให้โดยเกาหลีเหนือ เข้าใส่ยูเครนอย่างน้อย 9 ครั้ง
หน่วยงานเฝ้าระวังของสหประชาชาติบอกว่าขีปนาวุธซีรีส์ฮวาซอง-11 ถูกเปิดตัวต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก ผ่านการทดสอบโดยเปียงยางในปี 2019
เมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียใช้อำนาจวีโต้คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าด้วยการขยายวาระการปฏิบัติหน้าที่ของคณะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าจับตาการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นที่กำหนดเล่นงานโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือมาตลอด 15 ปี
อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิยับยั้งของรัสเซียต่อคณะมนตรีความมั่นคงไม่ได้เป็นการยกเลิกการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แต่เป็นเพียงการยุติการติดตามผลการดำเนินการของคณะผู้เชี่ยวชาญที่กำลังสืบหาความจริงในข้อกล่าวหามากมายที่มีต่อเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ อำนาจของคณะผู้เชี่ยวชาญสิ้นสุดลงในปลายเดือนเมษายน และจะไม่มีการต่ออายุเพราะรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งเพื่อแสดงความไม่เห็นชอบ
ภายในไม่กี่วันหลังการโจมตีเมื่อวันที่ 2 มกราคม สำนักงานอัยการแคว้นคาร์คิฟ นำเศษซากของขีปนาวุธออกมาแสดงกับสื่อมวลชน พร้อมบอกว่ามันต่างจากโมเดลของรัสเซีย และ "มันอาจเป็นขีปนาวุธที่ได้รับการจัดหาให้โดยเกาหลีเหนือ"
(ที่มา : รอยเตอร์)