ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุในทะเลแดง พวกกบฏฮูตียังคงเดินหน้าโจมตีเรือใกล้เยเมน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการบริษัทปัญญาประดิษฐ์รายใหญ่ ขณะที่ทองคำปรับลด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 78.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ ปิดที่ 83.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สถานีวิทยุอาร์มี เรดิโอ ของอิสราเอล รายงานในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ว่ารัฐบาลสงครามของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เห็นพ้องส่งคณะผู้แทนเจรจาไปยังฉนวนกาซา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงที่จัดขึ้นในกรุงปารีส ท่ามกลางแรงกดดันมากยิ่งขึ้นในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง กบฏฮูตีพันธมิตรของอิหร่านในเยเมน ประกาศกร้าวว่าจะยกระดับการโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงและน่านน้ำอื่นๆ รวมถึงใช้อาวุธจากเรือดำน้ำในการโจมตีด้วย จากการเปิดเผยของพวกผู้นำกลุ่มในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่พวกเขายังคงเดินหน้าโจมตีเรือ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในกาซา
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ปิดบวก โดยทั้งเอสแอนด์พี500 และดาวโจนส์แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเอ็นวิเดีย บริษัทปัญญาประดิษฐ์คาดการณ์มีกำไรพุ่งขึ้น ก่อความเชื่อมั่นที่มอบแรงหนุนแก่หุ้นเติบโตอื่นๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 456.87 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 39,069.11 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 105.23 จุด (2.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,087.03 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 460.75 จุด (2.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,041.62 จุด
หุ้นของเอ็นวิเดีย พุ่งขึ้น 15.2% หลังบริษัทผู้ออกแบบชิปแห่งนี้ประมาณการมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าในไตรมาสแรก สืบเนื่องจากอุปสงค์ชิปเอไอที่แข็งแกร่ง และมีรายได้ไตรมาส 4 มากกว่าที่คาดหมาย
ผลประกอบการของเอ็นวิเดีย ก่อความเชื่อมั่นที่มอบแรงหนุนแก่หุ้นเติบโตอื่นๆ ช่วยดันเอสแอนด์พี500 และดาวโจนส์ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกรอบ แม้เคยมีคำเตือนจากนักวิเคราะห์บางส่วนก่อนหน้านี้ว่า ผลประกอบการที่น่าผิดหวังอาจโหมกระพือแรงเทขายในหมู่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ปิดลบ ตามหลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้น จากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของอเมริกา โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,030.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)