กลโกงบัตรลงคะแนนทางไบรษณีย์ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020 และส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ จากผลการศึกษาหนึ่งที่เผยแพร่โดยสถาบันวิจัยฮาร์ทแลนด์ ที่มีสำนักงานใหญ่ในรัฐอิลลินอยส์
"ถ้าการเลือกตั้ง 2020 ดำเนินการดังเช่นศึกเลือกตั้งระดับชาติทุกๆ ครั้ง ในช่วง 2 ศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งผู้มีสิทธิออกเสียงส่วนใหญ่จำนวนมากออกมาลงคะแนนด้วยตนเอง ไม่ใช่ทางไปรษณีย์ เกือบแน่นอนว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัย" รายงานเน้นย้ำ อ้างถึงผลสำรวจที่รวบรวมในเดือนตุลาคม
มีมากถึงเกือบ 28.2% ของผู้มีสิทธิออกเสียงทางไปรษณีย์ได้ทำการโกงในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยลงมือในแนวทางต่างๆ "ภายใต้กรณีแวดล้อมต่างๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วนั้นผิดกฎหมาย" ข้อมูลของสถาบันวิจัยระบุ ทั้งนี้ในศึกเลือกตั้งปี 2020 มีประชาชนใช้สิทธิใช้เสียงผ่านการลงคะแนนทางไบรษณีย์มากถึงกว่า 43% ถือเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ดังนั้น การโกงตามคำกล่าวอ้างนี้จึงส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อผลการเลือกตั้ง
ผลสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,085 คน ในเดือนธันวาคมของสถาบันวิจัยแห่งนี้ พบว่ามีมีราว 1 ใน 5 ของผู้ที่ลงคะแนนทางไปรษณีย์ที่อาจทำบางอย่างที่เข่าข่ายเป็นการโกง โดยกว่า 1 ใน 5 (21%) ยอมรับว่าทำการกาบัตรแทนคนอื่น หรือลงคะแนนในรัฐที่พวกเขาไม่ได้มีที่พักอาศัยถาวรอีกแล้ว ส่วน 17% ยอมรับว่าพวกเขาเซ็นชื่อในบัตรเลือกตั้งแทนสมาชิกในครอบครัว โดยปราศจากการยินยอมใดๆ ในขณะที่อีก 19% เผยว่ามีเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวกาบัตรแทนพวกเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากนำข้อมูลมาวิเคราะห์เชิงสถิติเพิ่มเติม ทางฮาร์ทแลนด์ได้ปรับเพิ่มจำนวนเปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้ที่จะมีการโกงเกี่ยวกับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์เป็น 28.2% ก่อข้อสงสัยเพิ่มเติมจากกรณีที่คะแนนทางไปรษณีย์ไม่สวมสัดส่วนกับผู้ที่นิยมในตัวของไบเดน ซึ่งมันทำให้ผลเลือกตั้งมีความบิดเบือนเพิ่มมากขึ้น
สถาบันฮาร์ทแลนด์ ระบุต่อไปว่า ทรัมป์ จะยังคงเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ หากแม้การโกงบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนทางไปรษณีย์ไม่เกิน 3% โดยสถาบันแห่งนี้ได้อ้างกรณีตัวอย่าง 29 ตัวอย่าง เกี่ยวกับกลโกงการเลือกตั้งในหลายระดับที่ต่างกันออกไป ซึ่งเป็นตัวสนับสนุนผลวิจัยของพวกเขาที่ได้ข้อสรุปว่า ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันจะได้รับชัยชนะ หากปราศจากบัตรเลือกตั้งที่ฉ้อฉล
รายงานฉบับนี้ได้เรียกร้องเหล่าสมาชิกสภาคองเกรสให้ปราบปรามกลโกงการลงคะแนนทางไปรษณีย์ ด้วยการบังคับให้ประชาชนออกมาลงคะแนนด้วยตนเอง หรือในกรณีที่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้จริงๆ ก็ควรบังคับให้การลงคะแนนทางไปรษณีย์ต้องมีการลงนามรับรองหรือมิเช่นนั้นต้องได้รับการรับรองความถูกต้องผ่านบุคคลที่ 3 ที่มีความน่าเชื่อถือ
"ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรล้มเหลวในการแก้ปัญหานี้ ความเชื่อมั่นต่อความชอบธรรมของการเลือกตั้งในปี 2024 และครั้งต่อๆ ไป อาจลดลง เปิดทางสำหรับความยุ่งเหยิงและความไมสงบในสังคม" รายงานเน้นย้ำ
ที่ผ่านมา การลงคะแนนทางไปรษณีย์ถูกจำกัดให้เป็นแค่เศษส่วนเล็กๆ ของจำนวนประชากรสหรัฐฯ แต่มันถูกเปิดกว้างสำหรับทุกคนระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2020 สืบเนื่องจากโรคระบาดใหญ่โควิด-19 แม้มีความกังวลจากทั้ง 2 พรรคการเมืองเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโกงเลือกตั้ง
แม้กระทวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ยืนกรานว่าการเลือกตั้งปี 2020 คือศึกเลือกตั้งที่เชื่อถือได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ แต่ ทรัมป์ และผู้สนับสนุนของเขาจำนวนมาก กล่าวโทษว่าการโกงนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ของเขา
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)