ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประณามความเห็นของโดนัลด์ ทรัมป์ "น่ากลัวและอันตราย" ต่อกรณีที่เขาปฏิเสธผูกมัดตนเองกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) พร้อมชี้ในวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) มันแสดงให้เห็นว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้เมีเจตนาให้ไฟเขียวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก่อสงครามและความรุนแรงมากไปกว่านี้
ความเห็นของไบเดน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ กล่าวในวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ว่าเขาจะยุให้รัสเซียโจมตีรัฐสมาชิกนาโตที่ไม่ทำตามพันธะผูกพันเรื่องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม ในความเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรทหารแห่งนี้หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับตั้งแต่เขาแสดงความเคลือบแคลงสงสัยในนาโตมาช้านาน
คำพูดดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้น ณ เวทีหาเสียงหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา กระตุ้นเสียงเตือนอย่างแข็งกร้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ว่าเขากำลังนำพาพันธมิตรทหารแห่งนี้ตกอยู่ในอันตราย ก่อข้อสงสัยเพิ่มเติมต่อพันธสัญญาของสหรัฐฯ ที่มีต่อสนธิสัญญาป้องกันตนเองร่วมกัน หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้และตัวเต็งตัวแทนพรรครีพับลิกันในปัจจุบันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน
"การยอมรับของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขามีเจตนามอบไฟเขียวแก่ปูติน สำหรับก่อสงครามและความรุนแรงเพิ่มเติม เดินหน้าการจู่โจมอันโหดร้ายป่าเถื่อนเล่นงานยูเครน และยกระดับความก้าวร้าวของเขาต่อประชาชนชาวโปแลนด์และรัฐต่างๆ ในแถบบอลติก มันน่าตกใจและเป็นอันตราย" ไบเดน ระบุในถ้อยแถลง
ทรัมป์ ให้คำจำกัดความในสิ่งที่เขาพูดว่าเป็นบทสนทนาหนึ่งกับผู้นำรัฐสมาชิกหนึ่ง ณ ที่ประชุมหนึ่งของนาโต "หนึ่งในประธานาธิบดีของประเทศยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งยืนขึ้นและพูดว่า ท่านครับ ถ้าเราไม่จ่ายเงิน และเราถูกโจมตีโดยรัสเซีย คุณจะปกป้องเราหรือไม่? ซึ่งผมตอบว่า คุณไม่จ่ายเงิน เท่ากับคุณขาดความรับผิดชอบ และไม่ ผมจะไม่ปกป้องคุณ ความจริงคือ ผมจะยุให้พวกเขาทำอะไรก็ได้ตามใจของพวกเขาเลย"
ทั้งนี้ ทรัมป์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นาโตเป็นประจำ สำหรับการไม่ทำตามเป้าใช้จ่ายด้านกลาโหมอย่างน้อยๆ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)
ความเห็นล่าสุดของทรัมป์ มีขึ้นหลังจากบรรดาวุฒิสมาชิกจากรีพับลิกันหลายคนเมื่อวันพุธ (7 ก.พ.) ปฏิเสธร่างกฎหมายหนึ่ง ที่รวมถึงเงินทุนที่จำเป็นสำหรับยูเครน เงินช่วยเหลือแก่พันธมิตรอย่างอิสราเอล เช่นเดียวกับแผนปฏิรูปต่างๆ ในการจัดการกับวิกฤตชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
เวลานี้ ไบเดน และเดโมแครตในวุฒิสภาพยายามแก้เกมด้วยการผลักดันร่างกฎหมายฉบับใหม่ ที่รวมเอาเฉพาะแพกเกจความช่วยเหลือยูเครน อิสราเอล และประเทศอื่นๆ โดยตัดเรื่องเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและผู้อพยพออกไปอย่างสิ้นเชิง คาดกันว่าร่างกฎหมายใหม่นี้ซึ่งจะเข้าสู่การอภิปรายของวุฒิสภาในสัปดาห์นี้
เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตในวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) บอกเช่นกันว่า "คำบ่งชี้ใดๆ ที่บอกว่าพันธมิตรจะไม่ปกป้องกันและกัน บ่อนทำลายความมั่นคงของเราทั้งมวล ในนั้นรวมถึงความมั่นคงของสหรัฐฯ ด้วย"
ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ก็ประณามความเห็นของ ทรัมป์ ว่าขาดความยั้งคิด "บ่อนทำลายความมั่นคงและความรุ่งเรืองของอเมริกา แคนาดา และยุโรป"
(ที่มา : เอเอฟพี)