โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งเป็นผู้สมัครพรรครีพับลิกันเข้าชิงทำเนียบขาวปลายปีนี้ ประกาศเมื่อวันเสาร์ (10 ก.พ.) ว่า หากได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย เขา “จะกระตุ้นส่งเสริม” รัสเซีย “ให้ทำอะไรระยำตำบอนตามที่พวกเขาต้องการ” ต่อพวกประเทศสมาชิกนาโตที่ “หลีกเลี่ยง” ไม่ยอมทำตามพันธะผูกพันเรื่องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม พร้อมย้ำว่าไม่ยุติธรรมที่อเมริกาต้องคอยปกป้องสมาชิกอื่นๆ อีก 30 ประเทศ ด้านทำเนียบขาวโต้ความคิดเช่นนี้ว่าน่าตกใจและวิปลาส อีกทั้งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจของอเมริกา ตลอดจนเสถียรภาพของโลก
ในระหว่างการปราศรัยหาเสียงที่รัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันเสาร์ (10) อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เล่าถึงการพูดคุยกับประมุขแห่งรัฐของประเทศใหญ่รายหนึ่งในการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นเมื่อใด
“ประธานาธิบดีคนหนึ่งของประเทศใหญ่รายหนึ่งลุกขึ้นมาและถามว่า “ถ้าเราไม่จ่าย แล้วเราถูกรัสเซียโจมตี คุณจะพิทักษ์ปกป้องเราไหม” ผมตอบว่า “ถ้าคุณไม่จ่าย คุณก็เป็นพวกกระทำผิดใช่ไหม”
“ไม่หรอก ผมจะไม่ปกป้องคุณ ในความเป็นจริง ผมจะกระตุ้นส่งเสริมพวกเขาให้ทำอะไรระยำตำบอนตามที่พวกเขาต้องการ พวกคุณต้องจ่าย พวกคุณต้องจ่ายเงิน (ตามพันธะ) ของพวกคุณ”
ทั้งนี้ พวกชาติสมาชิกนาโตตกลงกันไว้ในปี 2014 หลังจากรัสเซียเข้ายึดคาบสมุทรไครเมียจากยูเครนและผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตน ในเรื่องที่จะยุติการตัดลดงบประมาณด้านกลาโหมที่พวกเขากระทำมานับแต่หลังสงครามเย็น และหันมาเพิ่มการใช้จ่ายด้านนี้จนอยู่ในระดับ 2% ของจีดีพีของแต่ละประเทศภายในปี 2024
ทางด้านทำเนียบขาวได้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้คำปราศรัยของทรัมป์อย่างรวดเร็ว แอนดรูว์ เบตส์ โฆษกทำเนียบขาวออกมาแถลงว่า การระบุว่าจะกระตุ้นส่งเสริมให้ประเทศฆาตกรรุกรานชาติพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของอเมริกาเช่นนี้ทั้งน่าตกใจและแสดงถึงความคิดที่วิปลาส รวมทั้งยังเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจของอเมริกา ตลอดจนเสถียรภาพโลก
เบตส์ บอกว่า ไบเดนซึ่งน่าจะได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นผู้ที่รื้อฟื้นกลุ่มพันธมิตรต่างๆ ของอเมริกาขึ้นมาใหม่ หลังจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2021 และให้หลักประกันว่า นาโตเวลานี้เป็นกลุ่มพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“แทนที่จะเรียกร้องสงครามและส่งเสริมสนับสนุนความปั่นป่วนวุ่นวายอย่างวิกลจริต ประธานาธิบดีไบเดนจะสืบต่อค้ำจุนความเป็นผู้นำของอเมริกา และยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ทางด้านความมั่นคงแห่งชาติของเรา ไม่ใช่คัดค้านผลประโยชน์เหล่านี้” เบตส์ กล่าวในคำแถลงซึ่งรีบออกมาตั้งแต่คืนวันเสาร์ (10)
ระยะแต่ที่เป็นประธานาธิบดีสมัยแรกแล้ว ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์นาโตอย่างรุนแรง และข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า จะถอนตัวจากองค์การนี้ เขายังลดการอัดฉีดนาโต และบ่นบ่อยๆ ว่า อเมริกาต้องจ่ายมากกว่าสมาชิกชาติอื่น
เดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศระหว่างหาเสียงว่า ไม่เชื่อว่าสมาชิกนาโตจะให้ความช่วยเหลือ ถ้าอเมริกาถูกโจมตี
อีกประเด็นหนึ่งที่พวกผู้สังเกตการณ์ให้ความสนใจกันก็คือ การปราศรัยของทรัมป์คราวนี้ ยังมีขึ้นหลังจากเมื่อวันพุธ (7) สมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภาได้คัดค้านร่างกฎหมายฉบับที่ครอบคลุมทั้งงบประมาณช่วยเหลือก้อนใหม่แก่ยูเครน และอิสราเอล ตลอดจนมาตรการปฏิรูปกฎเกณฑ์การบริหารจัดการวิกฤตชายแดนอเมริกา-เม็กซิโก และผู้อพยพเข้าเมือง
การออกเสียงเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าทรัมป์ยังมีอิทธิพลครอบงำรีพับลิกันอย่างอยู่หมัด เนื่องจากก่อนหน้านี้พวก ส.ว. ของพรรคใช้เวลาแรมเดือนในการเจรจาต่อรองกับทำเนียบขาวและฝ่ายเดโมแครต กว่าจะได้ร่างข้อเสนอลักษณะประนีประนอมครั้งนี้ออกมา ทว่าเมื่อทรัมป์แสดงความต้องการที่จะไม่ให้ไบเดนอ้างได้ว่าสามารถแก้ปัญหาชายแดนและผู้อพยพอย่างมีความคืบหน้า เพื่อตัวทรัมป์เองจะได้ชูเรื่องนี้เป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงสำคัญของเขา บรรดา ส.ว.รีพับลิกันก็ยินยอมกระทำตาม
ในการปราศรัยหาเสียงเมื่อวันเสาร์ ทรัมป์บอกว่าถือเป็นโอกาสสำหรับฉลองชัยชนะในการคัดค้านร่างกฎหมายเปิดพรมแดนของไบเดนไปด้วย พร้อมประกาศว่า ถ้าได้รับการเลือกตั้งกลับสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เขาจะสั่งการเนรเทศพวกผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน
เวลานี้ ไบเดนและเดโมแครตในวุฒิสภาพยายามแก้เกมด้วยการผลักดันร่างกฎหมายฉบับใหม่ ที่รวมเอาเฉพาะแพกเกจความช่วยเหลือยูเครน อิสราเอล และประเทศอื่นๆ โดยตัดเรื่องเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและผู้อพยพออกไปอย่างสิ้นเชิง คาดกันว่าร่างกฎหมายใหม่นี้ซึ่งจะเข้าสู่การอภิปรายของวุฒิสภาในสัปดาห์นี้
หากร่างกฎหมายใหม่นี้ได้รับอนุมัติอย่างรวดเร็ว งบช่วยยูเครนราว 61,000 ล้านดอลลาร์ ก็จะช่วยบรรเทาความลำบากของเคียฟที่กำลังประสบปัญหาคลังเครื่องกระสุนร่อยหรอ ขณะที่การสู้รบกับรัสเซียในสงครามกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 3 โดยที่เคียฟตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะหลังผ่านสภาสูงแล้ว ร่างกฎหมายนี้ยังต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยที่พวก ส.ส.รีพับลิกันจำนวนมากที่เป็นพันธมิตรกับทรัมป์ กำลังแสดงท่าทีจะไม่เอาด้วยกับรูปแบบการช่วยเหลือยูเครนเช่นนี้
ถึงแม้พันธมิตรยุโรปพากันกังวลว่า หากทรัมป์ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งอาจส่งผลกระทบความมุ่งมั่นของอเมริกาที่มีต่อนาโต ทว่า เจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า เขาไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น และเสริมว่า พันธมิตรยุโรปเพิ่มเงินสนับสนุนด้านการทหาร และเดินมาถูกทางแล้ว
ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของสโตลเทนเบิร์ก นับจากยูเครนถูกรัสเซียรุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 สมาชิกนาโตชาติอื่นๆ และประเทศหุ้นส่วนให้ความช่วยเหลือยูเครนรวมกันกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่อเมริกาให้ความช่วยเหลือเคียฟราว 75,000 ล้านดอลลาร์
(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)