xs
xsm
sm
md
lg

ผู้อพยพเข้าอเมริกาจากชายแดนเม็กซิโกไม่เพิ่มทะลักเหมือนที่วิตก หลัง “กม.มาตรา 42” สมัยทรัมป์ใช้วิกฤตโควิด-19 ห้ามลี้ภัยในอเมริกาสิ้นสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - กฎหมายมาตรา 42 (Title 42) ที่เคยใช้มานาน 3 ปี ในสมัยอดีตรัฐบาลทรัมป์สิ้นสุดลงท่ามกลางกระแสล้นทะลักเข้าเมืองจากผู้อพยพแดนละติน ก่อนหน้านั้น พบแนวพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกกลับดูสงบไม่มีการเพิ่มขึ้นหลังกฎหมายฉบับนี้มีอายุสิ้นสุดลงวันศุกร์ (12 พ.ค.) พร้อมกับการบังคับใช้กฎหมายใหม่แทนที่ ผู้ว่าการรัฐเทกซัสวิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน วางพรมต้อนรับผู้อพยพไว้ที่พรมแดน

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (13 พ.ค.) ว่า ที่บริเวณพรมแดนดูเหมือนผู้อพยพกำลังรออย่างอดทนสำหรับการเดินทางเข้าสู่ดินแดนสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้อพยพจำนวนมากในเม็กซิโกสายตาต่างจ้องมองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อเฝ้ารอข้อความส่งมาโดยไม่เสี่ยงที่จะข้ามไปเองโดยปราศจากคำอนุญาต

ซึ่งกฎหมายมาตรา42 (Title 42) ที่เคยใช้มานาน 3 ปี ในสมัยอดีตรัฐบาลทรัมป์สิ้นสุดลงในวันศุกร์ (12) เป็นมาตราการป้องกันการอพยพเข้าสหรัฐฯ โดยใช้เหตุพื้นฐานทางโควิด-19 ระบาด และหลังจากนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ยุคปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้บังคับใช้กฎหมายอื่นแทนที่หลังจากนั้น

กระทรวงมาตุภูมิและความมั่นคงสหรัฐฯ แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่พบจำนวนคลื่นผู้อพยพเพิ่มขึ้นหลังจากมาตรา 42 ยกเลิกการบังคับใช้เหมือนที่หลายฝ่ายวิตกก่อนหน้า

นายกเทศมนตรีเมืองเอล ปาโซ (El Paso) ออสการ์ ลีเซอร์ (Oscar Leeser) มีจำนวนผู้อพยพราว 1,800 คนได้ยื่นเรื่องต่อทางเจ้าหน้าที่ ขณะที่ศูนย์บริการผู้อพยพและผู้ลี้ภัย Diocesan Migrant and Refugee Services ที่เอล ปาโซ แถลงว่า มีผู้อพยพจำนวนมากแสดงความต้องการที่จะทำตามกฎใหม่

ส่วนเคนจิ คีซูกา (Kennji Kizuka) ผู้อำนวยการนโยบายผู้ลี้ภัยประจำ International Rescue Committee แสดงความเห็นว่ามันเงียบอย่างน่าประหลาดหลังมาตรา 42 สิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม สถานีฟ็อกซ์นิวส์ในรายการคุยข่าวยามเช้า Fox and Friends วันเสาร์ (13) รายงานอ้างว่า มีผู้อพยพไหลทะลักเข้าสหรัฐฯ หลังมาตรา 42 สิ้นสุด ขัดแย้งกับการรายงานของ CNN ของสหรัฐฯ ที่รายงานว่า ในหลายเมืองตามแนวพรมแดนใต้ของอเมริกาไม่เห็นการทะลักเข้าผู้อพยพ ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อนหน้าบีบีซีของอังกฤษเคยรายงานว่า คนจำนวนหลายหมื่นรอที่จะข้ามฝั่งจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐฯ ก่อนที่มาตรา 42 จะสิ้นสุด

ทั้งนี้ VOA ภาคภาษาไทยรายงานว่า กฎหมายที่เรียกว่า “Title 42” ที่ออกใช้ในสมัยทรัมป์มีข้อกำหนดให้สหรัฐฯ ต้องส่งตัวผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายออกจากประเทศโดยเร็วด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุข ถึงแม้จะมีข้อยกเว้นบางประการสำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กและสำหรับเยาวชนที่ไม่มีผู้ปกครองเดินทางมาด้วย เป็นต้น

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ก่อนหน้าการหมดอายุของกฎหมาย มีนักการเมืองพรรครีพับลิกันหลายคน รวมผู้ว่าการรัฐเทกซัส เกร็ก แอบบ็อตต์ ออกมากระพือข่าวให้ตกตื่นใจไปทั่วสหรัฐฯ ถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้อพยพบริเวณพรมแดน แอบบ็อตต์ถึงกับประณามรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตว่า ใช้นโยบายปูพรมต้อนรับไว้ที่พรมแดนทีเดียว ซึ่งก่อนหน้าไบเดนส่งกำลังทหารที่ได้รับการฝึกเป็นพิเศษไปที่พรมแดน

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า มาจนถึงเวลาเช้าวันศุกร์ (12) พบว่า เจ้าหน้าที่ควบคุมพรมแดนสหรัฐฯ CBP นำผู้อพยพเข้าสถานที่กักกันจำนวน 24,000 คน สูงเกินอัตราความสามาถสูงสุดที่รับได้ราว 18,000-20,000 คนต่อครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น