รัฐสภามาดากัสการ์ผ่านกฎหมายอนุญาตให้ลงโทษผู้ก่อคดีข่มขืนเด็กด้วยวิธีฉีดสารเคมีเพื่อให้อัณฑะฝ่อ หรือในบางกรณีอาจถึงขั้น “ตัดลูกอัณฑะ” ทิ้ง
กฎหมายฉบับนี้เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติ แต่ขณะเดียวกัน มีผู้สนับสนุนที่มองว่ามันเป็นบทลงโทษที่เหมาะสม และสามารถยับยั้ง “วัฒนธรรมการข่มขืน” ได้จริง
ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 2 ก.พ. และได้รับไฟเขียวจากวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทว่ายังต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญสูงสุดประกาศรับรอง ก่อนที่ประธานาธิบดี อันดรี ราฌูลินา ซึ่งเป็นผู้นำเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเมื่อเดือน ธ.ค. จะลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ลันดี เอ็มโบลาเทียนา รันเดรียมานันเทนาซัว รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมาดากัสการ์ ระบุว่า การกำหนดบทลงโทษเช่นนี้มีความจำเป็น เนื่องจากคดีข่มขืนเด็กเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2023 พบว่ามีผู้เยาว์ในมาดากัสการ์ตกเป็นเหยื่อการข่มขืนมากถึง 600 กรณี และเฉพาะในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นถึง 133 กรณี
“มาดากัสการ์เป็นรัฐอธิปไตยที่มีสิทธิแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์และผลประโยชน์ของประชาชน” รันเดรียมานันเทนาซัว ระบุ “กฎหมายอาญาที่ใช้อยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายเหล่านี้”
กฎหมายใหม่กำหนดระวางโทษตัดลูกอัณฑะ (surgical castration) สำหรับผู้ที่ข่มขืนเยาวชนอายุไม่เกิน 10 ปี “ทุกกรณี” ส่วนการข่มขืนเยาวชนอายุระหว่าง 10-13 ปี จะมีโทษตัดลูกอัณฑะหรือฉีดสารเคมีให้อัณฑะฝ่อ (chemical castration) และหากผู้เสียหายเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-17 ปี ผู้ก่อเหตุจะถูกลงโทษด้วยวิธีฉีดสารเคมีให้อันฑะฝ่อเท่านั้น
นอกจากทำให้หมดสมรรถภาพทางเพศแล้ว ผู้ก่อคดีข่มขืนยังอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต
“เราอยากที่จะปกป้องเด็กๆ ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ยิ่งเหยื่อเป็นเด็กอายุน้อยเท่าไหร่ บทลงโทษจะต้องแรงขึ้นเท่านั้น” รันเดรียมานันเทนาซัว กล่าว
การฉีดสารเคมีให้อัณฑะฝ่อเป็นการใช้สารเคมียับยั้งฮอร์โมนเพศชายเพื่อให้ความต้องการทางเพศลดลง และส่วนใหญ่สามารถหายเป็นปกติได้หากหยุดยา ส่วนการตัดลูกอัณฑะนั้นถือเป็นกระบวนการลงโทษที่ให้ผลแบบถาวร
ปัจจุบัน มีหลายประเทศ รวมถึงบางรัฐในสหรัฐอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนียและฟลอริดาซึ่งอนุญาตการฉีดสารเคมีให้อัณฑะฝ่อสำหรับนักโทษคดีข่มขืนบางราย ส่วนการลงโทษด้วยวิธีตัดลูกอัณฑะนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก
ที่มา : AP