เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เรียกร้องให้รัฐสมาชิกของกลุ่มยกระดับกำลังผลิตด้านกลาโหม ท่ามกลางความคาดหมายว่าการเผชิญหน้ากับรัสเซีย "อาจลากยาวหลายทศวรรษ" พร้อมเน้นย้ำคำเตือนว่าเศรษฐกิจของตะวันตกยังเตรียมพร้อมไม่ดีนักสำหรับรับมือกับความขัดแย้งดังกล่าว
ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ที่ยูเครนประสบความล้มเหลว และกองกำลังรัสเซียใกล้จะยึดเมืองอัฟดิฟกา ป้อมปราการสำคัญของภูมิภาคดอนบาส เช่นเดียวกับกรณีสื่อมวลชนรายงานต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์ เกี่ยวกับสถานการณ์เลวร้ายด้านการขาดแคลนกำลังพลและกระสุนที่ยูเครนกำลังเผชิญ ทาง สโตลเทนเบิร์ก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Die Welt ว่าเหล่ารัฐสมาชิกนาโตต้องยกระดับกำลังผลิตอาวุธให้ทันตามความต้องการของยูเครน
"เราจำเป็นต้อฟื้นฟูและขยายพื้นฐานทางอุตสาหกรรมของเราให้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อที่เราจะสามารถป้อนอุปทานเพิ่มเติมแก่ยูเครนและเติมเต็มสต๊อกของเรา นั่นหมายความว่าเปลี่ยนจากการผลิตอย่างช้าๆ ในช่วงเวลาสันติ เป็นการผลิตอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางความขัดแย้งต่างๆ" เขากล่าว
เมื่อเร็วๆ นี้ นาโตได้ลงนามในสัญญาต่างๆ มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์ ในการผลิตกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. จำนวน 220,000 นัด ส่งผลใหทางกลุ่มได้ใช้ใช้เงินในข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระสุนเพียงอย่างเดียวไปแล้วมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เหล่าสัญญาล่าสุดจะไม่เสร็จสมบูรณ์จนกว่าจะถึงปี 2025 และจากข้อมูลพบว่าในคำสัญญาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการมอบกระสุนแก่ยูเคครน ทาง อียู ก็ไม่สามารถทำตามที่รับปากไว้ ในนั้นรวมถึงคำสัญญามอบกระสุนปืนใหญ่ 1 ล้านนัดแก่เคียฟ
ขณะเดียวกัน คลังแสงของอเมริกาก็ร่อยหรอลง จากความพยายามของวอชิงตันในการป้อนอาวุธแก่ทั้งยูเครนและอิสราเอล และเวลานี้แพกแกจช่วยเหลือด้านการทหารมูลค่า 61,000 ล้านดอลลาร์ ตามคำสัญญาของทำเนียบขาวยังคงค้างเติ่งอยู่ในสภาคองเกรส
"นาโตไม่ได้แสวงหาสงครามกับรัสเซีย แต่เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมตัวเราเองสำหรับการเผชิญหน้าหนึ่งที่อาจลากยาวนานหลายทศวรรษ" สโตลเทนเบิร์กบอกกับ Die Welt "ถ้าประธานาธิบดีวลาดิมร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ชนะในสงครามกับยูเครน ไม่มีคำรับประกันว่าการรุกรานของรัสเซียจะไม่แผ่ลามสู่ประเทศอื่นๆ"
สโตลเทนเบิร์ก เป็นหนึ่งในนักการเมืองตะวันตกหลายคน และพวกผู้นำด้านการทหารที่ออกมาทำนายเกี่ยวกับเค้าลางที่รัสเซียจะลงมือโจมตีกลุ่มพันธมิตรทหารแห่งนี้ โดยก่อนหน้านี้รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์ก นายพลสวีเดนรายหนึ่ง นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย และรัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักรต่างเน้นย้ำในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจปะทุขึ้นอย่างเร็วที่สุดคือ 3 ปี
นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าการโจมตีดินแดนของนาโต จะลากรัสเซียเข้าสู่การทำสงครามกับพันธมิตรทหารแห่งนี้ทั้งมวล ทางพวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเน้นย้ำซ้ำๆ ว่าการโจมตีโปแลนด์และรัฐต่างๆ ในแถบบอลติกไม่มีประโยชน์ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจและการทหาร
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับทัคเกอร์ คาร์ลสัน พิธีกรรายการทอล์กโชว์หัวอนุรักษนิยมชื่อดังชาวสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) ปูตินบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่รัสเซียจะรุกรานโปแลนด์หรือลัตเวีย "เราไม่สนใจโปแลนด์ ลัตเวีย หรือที่อื่นใด ทำไมเราต้องทำเช่นนั้น? ง่ายๆ เลยเราไม่สนใจ มันเป็นแค่การปล่อยข่าวขู่"
ปูติน โต้แย้งว่าพวกผู้นำตะวันตก "พยายามข่มขูประชาชนของตนเองด้วยจินตนาการภัยคุกคามจากรัสเซีย และการทำนายเหล่านั้น เป็นเรื่องเล่าอันน่าขนลุกขนพองที่ป้อนใส่หูประชาชนบนท้องถนน เพื่อที่จะขูดรีดเงินเพิ่มเติมจากพวกผู้เสียภาษีทั้งในสหรัฐฯ และในยุโรป เพื่อคงกระแสอาวุธและกระสุนป้อนแก่ยูเครน"
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)